ภาพรวมตลาดพลังงานและแร่โลหะมีค่าประจำสัปดาห์ โดย
2022-01-10 16:15:23
more 
350
ภาพรวมตลาดพลังงานและแร่โลหะมีค่าประจำสัปดาห์ © Reuters

- ความกังวลของตลาดลงทุนที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวแรงที่สุดในรอบ 40 ปีทำให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้ในวันศุกร์ แต่ถึงกระนั้น ทองคำก็ยังคงวนเวียน วิ่งอยู่หน้าทางแยกระหว่างจะขึ้นยืนเหนือ $1,800 ให้ได้อย่างมั่นคง หรือปรับตัวลดลงต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทองคำในมุมมองหนึ่งก็เป็นตัวเลือกที่น่าซื้อ แต่ในอีกทางหนึ่งก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่อ่านยากอยู่พอสมควร

การปรับตัวขึ้นของทองคำทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐย่อตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดล่าสุดเล็กน้อย ในขณะที่กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสองปีที่ระดับ 1.79% เอ็ด โมญ่า นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ของทองคำว่า

“สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของราคาทองคำมากนัก เมื่ออัตราผลตอบแทนฯ ปรับตัวขึ้นจาก 1.53% ขึ้นไปยัง 1.75% ตราบใดที่ทองคำยังวิ่งอยู่ต่ำกว่า $1,800 และเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 วัน มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงไปมากกว่า ถ้าสัปดาห์นี้ทองคำวิ่งเป็นแนวโน้มขาลงจริง เราอาจจะได้เห็นฝั่งขาขึ้นสวนขึ้นมาที่ระดับราคา $1,770”

ความผันผวนของตลาดทองคำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนทำให้ทองคำฟิวเจอร์และสปอตสามารถยืนเหนือ $1,800 ได้ชั่วคราวนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง หนึ่งคือทองคำยังคงได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์คานเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่ามีโอกาสจะถูกเทขายได้ทุกเมื่อหากว่าดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น และอีกหนึ่งประเด็นที่สามารถตีความได้ก็คือทองคำกลัวการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $1,830

หลายครั้งแล้วที่ตลาดลงทุนพยายามจะพาทองคำให้สามารถขึ้นยืนเหนือ $1,830 ให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ ความพยายามนั้นเกิดขึ้นอีกครั้งในวันพุธ ก่อนที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมจะออกมา รายงานการประชุมนั้นกดดันตลาดหุ้นและทองคำ ในขณะที่ช่วยดันดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

เจมส์ สแตนลีย์ นักวิเคราะห์จาก DailyFX วิเคราะห์ว่า

“แนวต้าน $1,830 ตอนนี้สามารถพิจารณาได้แล้วว่าเป็นแนวต้านระยะยาว โซนระดับราคาที่ $1,829 และ $1,832 ต่างก็เป็นโซนปรับฐานที่เกิดขึ้นจากเครื่องมือ Fibonacci Retracement ที่ระดับ 38.2% ถ้าหากไม่มีสถานการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ยากแล้วที่ทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านนี้ได้ เพราะนักลงทุนปักใจเชื่อไปแล้วว่ายังคงทองคำก็จะต้องลงในวันที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเป็นช่วงไหนของปีนี้ก็ตาม”

“หากเป็นเช่นนั้น” เขากล่าวต่อ “มีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวลดลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,700 โดยมีแนวรับหลักคือ $1,680 ที่เคยทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ลึกที่สุดของปี 2021 ในปีที่ผ่านมา การเด้งกลับขึ้นมาจากแนวรับบริเวณนี้ ส่งผลให้ทองคำสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ ก่อให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง ในระยะยาว นี่คือการฟอร์มตัวของรูปแบบขาลงครั้งใหญ่”

ถึงแม้ว่าตลาดลงทุนจะไม่ทราบวันเวลาอย่างเป้นทางการว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเวลาใดของปีนี้ แต่เพราะก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลกรอบเวลาที่จะหยุดโครงการเงินเยียวยาภัยโรคระบาดไปแล้ว ประกอบกับเผยความเป็นไปได้ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึงสามครั้งในปี 2022 จึงทำให้นักลงทุนวิเคราะห์และเชื่อกันไปต่างๆ นานาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นจริง ทั้งๆ ที่เฟดก็กล่าวว่าต้องขึ้นอยู่กับว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาเหลือ 2% ตามเป้า และการจ้างงานจะกลับมาเต็มกำลังด้วยหรือไม่ แต่ความเชื่อเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะหยุดราคาทองคำไม่ให้ขึ้นยืนเหนือ $1,830 ได้

ฟิลิป สตริปเบิล นักวิเคราะห์จาก Blue Line Futures ในชิคาโกมองว่าเฟดอาจจะไม่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากอย่างที่ตลาดลงทุนคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการจ้างงานยังคงมีปัจจัยใดๆ ก็ตามมาชะลอการเติบโต ถึงตัวเลขอัตราการว่างงานจะกลับลงมาแล้วที่ 3.9% แต่ตัวเลขมาตรวัดเงินเฟ้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาผู้บริโภค และการบริโภคส่วนบุคคลก็ยังคงสูงที่สุดในรอบ 40 ปี

จริงอยู่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นไม่ใช่ข่าวดีสำหรับทองคำ แต่นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่าธีมการลงทุนในปีนี้หลักๆ ก็ยังคงเป็นเงินเฟ้อ และถ้าหากการลด QE ยังไม่สามารถกดเงินเฟ้อให้ลดลงมา มีความเป็นไปได้ที่อาจจะได้เห็นราคาทองคำขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ $2,100 

ภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำ

ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์บนตลาด COMEX นิวยอร์กในวันศุกร์ที่แล้วปรับตัวขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ระดับราคา $1,797 แต่หากพิจารณาเป้นภาพรวมรายสัปดาห์ จะพบว่าราคาทองคำปรับตัวลดลง 1.7% 

Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก skcharting.com วิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำเอาไว้ว่า

“สัปดาห์นี้มีโอกาสที่ราคาทองคำจะวิ่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบเช่นนี้ต่อไป หากราคาสามารถยืนเหนือ $1,798 ไปได้ตลอด ก็อาจจะเปิดโอกาสให้ราคาขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $1,810 และ $1,825 แต่ถ้าทองคำหลุดแนวรับ $1,789 ลงไป มีโอกาสที่จะได้เห็นแนวรับ $1,782 หรือถ้าแย่ที่สุดคือลงไปถึง $1,678 ในความเห็นของผม สัปดาห์นี้โซนแนวรับ $1,770 - $1,768 จึงเป็นโซนการปรับฐานที่สำคัญมาก”

ภาพรวมตลาดน้ำมันทั้งปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค

ราคาน้ำมันปิดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการปรับตัวขึ้นห้าวันติดต่อกัน จากผลกระทบของการระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่ เหตุการณ์ในคาซัคสถาน และกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) ที่ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ เป็นพิเศษนอกจากคงอัตราการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นเมื่อวันศุกร์ก็ได้รับผลกระทบให้ชะลอตัวลดลงเพราะการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาได้เพียง 199,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ 450,000 ตำแหน่ง แต่ยังดีที่ตัวเลขการว่างงานลดลงมาต่ำกว่า 4% 

เอ็ด โมญ่า วิเคราะห์ว่า 

“ถึงจะเชื่อว่าการระบาดของโอมิครอนจะกระทบความต้องการน้ำมันในระยะสั้น แต่ก็อย่าพึ่งมั่นใจว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงแล้ว อเมริกา ยูโรโซน และจีนต่างยังคงพบยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น และกำลังทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ให้ได้ ถึงอย่างไรโอมิครอนก็จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในระยะสั้นต่อไป ในช่วงครึ่งปีแรก ผมคิดว่าราคาน้ำมันดิบจะวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ในช่วงครึ่งปีแรก”

สัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ถือเป็นขาขึ้นสัปดาห์ที่สาม ที่ทำให้ภาพรวมของน้ำมัน WTI ขึ้นมาแล้วประมาณ 10% ถึงแม้ว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา WTI จะปรับตัวลดลง 0.7% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $78.90 ต่อบาร์เรลก็ตาม ในขณะเดียวกัน ราคาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์ก็ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้วมากกว่า 5% มีภาพรวมตลอดสามสัปดาห์เหมือนกับน้ำมันดิบ WTI แม้ว่าวันศุกร์จะปรับตัวลดลงไป 0.3% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $81.75 ต่อบาร์เรลก็ตาม 

Sunil ให้ความเห็นกับตลาดน้ำมันดิบว่า

“ถึงสัปดาห์นี้ WTI จะมีโอกาสไซด์เวย์ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่เพราะสามารถยืนเหนือ $74 ต่อบาร์เรล ประกอบกับเป็นขาขึ้นมาสามสัปดาห์ติดต่อกัน ทำให้ยังมีโอกาสที่จะได้เห็นราคาที่แนวต้าน $80 ต่อบาร์เรล หากสามารถขึ้นไปถึง $80 ต่อบาร์เรลได้จริง แนวต้านถัดไปที่ควรพิจารณาคือ $83 - $85 ต่อบาร์เรล โดยมีแนวต้านระยะกลางคือ $89 - $90 ต่อบาร์เรล ส่วนแนวรับกราฟมีอยู่ที่ $75-$73 ต่อบาร์เรล”

 

Statement:
The content of this article does not represent the views of fxgecko website. The content is for reference only and does not constitute investment suggestions. Investment is risky, so you should be careful in your choice! If it involves content, copyright and other issues, please contact us and we will make adjustments at the first time!

Related News

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。