ตลาดลงทุนเก็งเฟดคืนนี้จะปรับลดวงเงิน QE $15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
2021-11-03 17:40:24
more 
1488

การลงทุนในตลาดสกุลเงินวันนี้มีโอกาสที่ดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เชื่อว่าสาเหตุทุกคนคงจะพอเดากันได้ เพราะคืนนี้อาจจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาด ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดวงเงินช่วยเหลือเศรษฐกิจ (QE) การปรับลด QE นี้จะทำให้สภาพคล่องในตลาดทุนลดลง แต่จะเป็นการรักษาเสถียรภาพและมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 

เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงสองสัปดาห์ก่อนแทบไม่มีนักลงทุนสถาบันอยากถือดอลลาร์ของอเมริกาเลย เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อคำลวงของธนาคารกลาง ที่เอาแต่พร่ำบอกว่าใกล้จะลดวงเงิน QE แล้ว แต่ก็ยังไม่คิดที่จะดำเนินการอย่างจริงจังเสียที แต่ความเป็นไปได้ที่จะมีการลด QE ในคืนนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และกราฟ USD/JPY สามารถทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบสามปีได้ภายในระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์ ก่อนที่จะพักฐานรอคอยมาจนถึงวันนี้ 

ความจริงแล้ว ตลาดลงทุนก็พอจะเดาได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายเดือนนี้ไม่ก็เดือนหน้า แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการทราบจริงๆ คือการลดวงเงิน QE นี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เพื่อที่จะสามารถคำนวณความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ในการประชุมของธนาคารกลางครั้งล่าสุด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดเคยกล่าวเอาไว้ว่าการลด QE จะสิ้นสุดภายในช่วงกลางปีหน้า ยิ่งผลการประชุมวันนี้ให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดว่าจะสิ้นสุด QE เมื่อไหร่ในปีหน้า รายละเอียดนั้นจะยิ่งส่งผลดีต่อดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุที่รายละเอียดของการลงวงเงิน QE มีความสำคัญเพราะทันทีที่ตลาดลงทุนได้ตัวเลขที่แน่นอนมา พวกเขาจะสามารถคำนวณได้เลยว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงได้เท่าไหร่ต่อเดือน ยกตัวอย่างเช่น หากเฟดเริ่มลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจำนวน $15,000 ล้านเหรียญต่อเดือนในเดือนพฤศจิกายน เท่ากับว่าการลดวงเงิน QE นี้จะสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน และถ้าตัวเลขที่เฟดประกาศออกมามีจำนวนมากกว่า $15,000 ต่อเดือน ย่อมหมายความว่าระยะเวลาการลดวงเงิน QE ก็จะยิ่งสั้นลง ยิ่งกรอบระยะเวลาลด QE สั้นลงมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อดอลลาร์สหรัฐมากเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่นักลงทุนต้องระวังคือข่าวดีนี้ถือเป็นข่าวร้ายต่อตลาดหุ้น เพราะการลด QE หมายถึงสภาพคล่องในตลาดทุนที่หายไป

นักวิเคราะห์ประเมินว่าการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้จะต้องไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แน่นอน ตราบใดที่ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกายังไม่ปรับตัวลดลงมา แต่ตลาดลงทุนกลับคิดต่างออกไป พวกเขาเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่น่าที่จะดึงสภาพคล่องออกในจำนวนมาก เพราะการทำเช่นนั้นอาจจะทำให้ตลาดช็อกมากเกินไป จึงทำให้ทั้งๆ ที่การประชุมจะเริ่มขึ้นในคืนนี้ ดัชนีหลักของสหรัฐฯ กลับยังสามารถสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมของการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐอเมริกาในคืนนี้เวลาตี 1 ตามเวลาประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเจอโรม พาวเวลล์จะไม่บอกวันเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกมาโดยตรง และพาวเวลล์ก็อาจจะพูดย้ำถึงความไม่จำเป็นที่ต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคืนนี้ตลาดจะได้ข้อมูล (ซึ่งก็คือจำนวนเงิน QE ที่ถูกลด) ให้ไปคำนวณกันเองว่าวันเวลาที่คาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นวันที่เท่าไหร่ 

ต้องยอมรับว่าแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ กับความคาดหวังของนักลงทุนในตอนนี้สวนทางกันอย่างชัดเจน นักลงทุนเชื่อในหลักฐานที่เห็นมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในรอบสามสิบปี การหดตัวของตัวเลขยอดค้าปลีก การจ้างงานนอกภาคการเกษตร และดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM ในเดือนก่อน ด้วยหลักฐานเช่นนี้ตลาดจึงเชื่อว่าธนาคารกลางฯ ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง แต่ในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ไม่มีผู้มีสิทธิ์กำหนดนโยบายคนใดที่เชื่อเลยว่าธนาคารกลางจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ภายในปี 2022 ในขณะที่ตลาดลงทุนเชื่อไปแล้วว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเบสิสได้ในปีหน้า

หากคืนนี้การประชุมได้ข้อสรุปเป็นไปตามที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ ดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับการตัดสินใจตามแนวทางที่เฟดเชื่อ หากเฟดยังคงเอาแต่พูดคำเดิมๆ ว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ต้องเป็นกังวลไปเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง เตรียมได้เห็นภาพ EUR/USD ทะยานขึ้นสวนทางกับ USD/JPY ได้เลย อนึ่ง ก่อนการประชุม FOMC คืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ประเมินโดยภาคเอกชน ADP และดัชนี PMI ภาคการบริการจาก ISM ข้อมูลจากทั้งสองตัวเลขนี้จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญกับการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนตุลาคม ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนก็ต่างทราบดีว่าตัวเลขดังกล่าวมีความสำคัญมากขนาดไหนในทุกๆ ต้นเดือนใหม่

ความเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินเมื่อคืนนี้ค่อนข้างทรงตัว ยกเว้นแต่เพียงสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงมากกว่า 1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กล่าวว่าตลาดลงทุนทั่วโลกตื่นตูมกับข้อมูลเงินเฟ้อในช่วงระยะหลังมากเกินไป แต่กลับยอมรับความจริงว่าเรื่องเงินเฟ้อมีความเสี่ยงกับภาพรวมการเติบโตของอัตราค่าจ้าง 

ในขณะเดียวกัน RBA ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้สนับสนุนนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย สร้างความงุนงงให้กับตลาดลงทุนอยู่พอสมควร แต่พวกเขาก็ปลอบใจตลาดด้วยการหยุดการตั้งเป้าในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลภายในสามปี และประกาศว่ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าเดิมจากปี 2024 เป็นภายในปี 2023 การสับขาหลอกของธนาคารกลางออสเตรเลียส่งผลให้ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าตามก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานในไตรมาสที่สาม ที่คาดว่าตัวเลขที่ออกมาอาจลดลง

Statement:
The content of this article does not represent the views of fxgecko website. The content is for reference only and does not constitute investment suggestions. Investment is risky, so you should be careful in your choice! If it involves content, copyright and other issues, please contact us and we will make adjustments at the first time!

Related News

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。