เมื่อถึงจุดต่ำสุด คริปโตฯ จะคืนชีพอีกครั้ง
2022-05-20 15:45:11
more 
279

ในตลาดลงทุนทุกวันนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเพื่อสร้างความสับสนนักลงทุน ความสับสนและความกังวลกลายเป็นสิ่งกดดันราคาหุ้นให้ปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดเสี่ยงกำลังมุ่งหน้าลงสู่จุดต่ำสุดในรอบเกือบแปดปี ความเสี่ยงก็ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ในวันที่เกิดโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม 2022 ถือเป็นช่วงเวลาที่ต่างจากเดือนมีนาคม 2020 อยู่พอสมควร เมื่อโลกต้องเผชิญกับศัตรูตัวใหม่

สงครามที่โหมกระหน่ำในยูเครนทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น นักลงทุนในตลาดจำนวนมากต่ายพากันล้มตาย พ่ายแพ้ในการลงทุนกับทรัพย์เสี่ยง แต่ที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นคือการเก็งกำไรในสกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขานึกถึง ความบ้าคลั่งกับการเก็งกำไรในตลาดสกุลเงินดิจิทัลค่อยๆ หายไปหลังจากสกุลเงินดิจิทัลขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 10 พฤศจิกายน ในช่วงปลายเดือนมกราคมบิทคอยน์  อีเทอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อีกมากมายร่วงลงสู่จุดต่ำสุด และยังคงกองรวมกันอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดในปัจจุบัน

ด้วยปัจจัยเชิงลบที่กำลังรุมเร้าโลกของเราในตอนนี้อย่างเช่นสงคราม, อัตราเงินเฟ้อ, ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, การล็อคดาวน์ของจีน, ความตึงเครียดระหว่างพลังงานนิวเคลียร์ และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพิจารณาเพิ่มการลงทุนในตลาดคริปโตฯ ให้กับพอร์ตการลงทุนของคุณ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกในตลาดสกุลเงินดิจิทัล Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (NYSE:BITQ) เป็น ETF สภาพคล่องที่ปรับตัวขึ้นลงตามบิทคอยน์ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แต่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดแห่งนี้เพียงพอ

ไม่มีสินทรัพย์ใดที่สามารถขึ้นหรือลงไปได้ตลอดกาล

ในช่วงที่ตลาดมีแต่ขาขึ้น ความคลั่งไคล้การเก็งกำไรเข้าครอบงำตลาดสกุลเงินดิจิทัล บิทคอยน์และอีเทอเรียมคือสินทรัพย์ที่นักลงทุนไว้วางใจฝากความหวังเอาไว้มากที่สุด ปฏิบัติกับสินทรัพย์ทั้งสองราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ Bitcoin Monthly Chart.Bitcoin Monthly Chart.

อ้างอิง: Barchart

ในช่วงที่ตลาดมีแต่ขาขึ้น บิทคอยน์สามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในตลาด ด้วยตำนานราวกับเรื่องราวของการเปลี่ยนเงิน 100 ดอลลาร์ในปี 2010 ให้กลายเป็นเงินนับล้านในปี 2021

Ethereum Monthly Chart.Ethereum Monthly Chart.

อ้างอิง: Barchart

อีเทอเรียม สกุลเงินดิจิทัลอันดับสอง ได้อานิสงส์ปรับตัวขึ้นตามราคาบิทคอยน์ ถึงกระนั้นอีเทอเรียมก็มีตำนวนของตัวเองในฐานะสกุลเงินดิจิทัล ที่จะเป็นต้นแบบของโลกสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตอย่างแท้จริง

แต่เมื่อวันเวลาแห่งความสุขหมดลง ความน่าดึงดูดใจ ความหอมหวาน ภาพฝันของบ้านสุดหรู ก็ระเหยไปอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวของราคาที่ร่วงลงเร็วยิ่งกว่าน้ำตกทำให้เกิดการขาดทุนและทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหยุดชะงัก

สิ่งที่คิดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง

ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์สำรอง ทุกคนเคยหวังว่าสกุลเงินดิจิทัลจะเอาเยี่ยงอย่างทองคำ ในการปรับตัวขึ้นเมื่อมีภาวะเงินเฟ้อ แต่ความเป็นจริงในตอนนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น ข้อมูลตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ไม่ได้ช่วยให้บิทคอยน์ อีเทอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ มากกว่า 19,470 สกุลปรับตัวขึ้นได้เลย กลับกลายเป้นว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ผลักดันให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วไปอื่นๆ พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002 แรงกดดันด้านเงินเฟ้อครั้งนี้ทำให้คนเลือกแล้วว่าสินทรัพย์คานความเสี่ยง ที่พวกเขายังคงเชื่อมั่นคือเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นทำให้เงินดิจิตอลปรับตัวลดลง

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้น GDP ของสหรัฐฯ ลดลงในไตรมาสแรกของปี 2022 จนติดลบ 1.4% การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ในประเทศจีนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอันดับสองของโลก ภาวะถดถอยกลายเป็นความเสี่ยงสองในสี่ของ GDP ที่อาจจะลดลงในอนาคต นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อไปแล้วว่าเศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 2 จะประสบปัญหาเดียวกันกับไตรมาสที่ 1 ภาวะถดถอยเมื่อรวมพลังกับเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะต้องเจอก็คือภาวะซบเซา ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกในใช้นโยบายการเงินเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้น 

นอกจากนี้ สงครามในยูเครนและความตึงเครียดระหว่างจีน/รัสเซีย VS สหรัฐอเมริกา/ยุโรป ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านอุปทาน การจัดหาวัตถุดิบและกิจกรรมทางธุรกิจกลายเป็นตัวต่อรองการซื้อขายระหว่างประเทศ แม้นโยบายการเงินจะมีประสิทธิภาพสูงเมื่อต้องรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ แต่ธนาคารกลางกลับไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อต้องจัดการกับปัญหาด้านอุปทาน

ขาลงในตลาดสกุลเงินดิจิทัลคือการเตือนว่าสภาพเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย ในขณะธนาคารกลางและรัฐบาลกลายเป็นผู้ยืนดูความย่อยยับของตลาดเสรี และออกมาประกาศว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์การเมือง ที่พวกเขาเป็นคนก่อด้วยตัวเอง

เหตุผล 3 ประการว่าทำไมตลาดคริปโตฯ จะสามารถคืนชีพกลับมาได้

แม้ว่าการขึ้นลงของราคาในบางครั้งก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ขึ้นลงตามเจตจำนงเสรีภาพ และกลไกทางเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าปัจจัยสามประการดังต่อไปนี้จะทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเจอจุดต่ำสุด และฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้

- ในเชิงอุดมคติแล้ว สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่เกิดจากเจตจำนงเสรีของฝ่ายเสรีนิยม ที่ปฏิเสธการควบคุมของรัฐบาล เมื่อศรัทธาและเครดิตของรัฐบาลลดลง สกุลเงินดิจิทัลอาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเศรษฐกิจโลก

- นโยบายการเงินแบบตึงตัวในปัจจุบันกำลังเปิดพื้นที่เตรียมตัวรอวิกฤตเศรษฐกิจครั้งต่อไป ซึ่งก็จะนำไปสู่ลูปการเพิ่มสภาพคล่องและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แน่นอนว่าสภาพคล่องที่สูงขึ้นไม่เคยเป็นข่าวดีของสกุลเงินเฟียต อย่างที่เราเห็นมาแล้วในปี 2020  สงครามในยุโรป ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบทั้งหมดจากการบิดเบือนอุปทานในระบบเศรษฐกิจ จะยิ่งทำให้ผู้คนตระหนักได้ และสกุลเงินดิจิทัลก็จะกลายเป็นสินทรัพย์กระแสหลักมากขึ้น

- สกุลเงินดิจิทัลแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการปฏิวัติเทคโนโลยีและฟินเทค การปรับปรุงความเร็ว การเพิ่มประสิทธิภาพของการบันทึกธุรกรรมทางการเงิน การยอมรับเทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างแพร่หลาย และการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลถืปเป็นเพียงก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินเท่านั้น

ETF คือทางเลือกอื่นในการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

ต้องยอมรับความจริงกันอย่างหนึ่งว่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลยังไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วๆ ไป ที่ไม่รู้อะไรเลยจะเข้าใจได้ง่าย ยิ่งการดูแล private key ที่มีตัวอักษรเฉพาะ หรือการมีกระเป๋าเงินดิจิทัลยิ่งไม่ต้องพูดถึง แล้วจะทำอย่างไรถ้าหากต้องการลงทุนในตลาดแห่งนี้ โดยที่ไม่เข้าไปแตะต้องตัวสกุลเงินดิจิทัล?

ทางแรกคือการลงทุนผ่านหุ้นบริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลคอยน์เบส (NASDAQ:COIN) นี่คือโอกาสเข้าเก็บหุ้นของตัวกลางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัลทางอ้อม โดยที่ไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับความผันผวนที่มีในตลาดเลย

ทางเลือกที่สองคือการลงทุนผ่านกองทุน ETF ในบทความนี้เราขอแนะนำ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF พวกเขาถือหุ้นของบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด รายชื่อของหุ้นบริษัทที่อยู่ใน BITQ มีดังนี้BITQ ETF Holdings.BITQ ETF Holdings.

อ้างอิง: Barchart

ปัจจุบัน BITQ มีสินทรัพย์รวมทั้งหมด $59.443 ล้านเหรียญสหรัฐ ในวันที่ 17 พฤษภาคม ราคาซื้อขายกองทุน BITQ มีราคาอยู่ที่ $8.31 และมีค่าจัดการบริหารกองทุนอยู่ที่ 0.85% แน่นอนว่าเมื่ออ้างอิงราคากับตลาดคริปโตฯ ทิศทางการเคลื่อนที่ของกองทุน BITQ จึงไม่แตกต่างกันBITQ Weekly Chart.BITQ Weekly Chart.

อ้างอิง: Barchart

ในเดือนพฤศจิกายน 2021 BITQ เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดถึง 35.68 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นวันเวลาเดียวกันกับที่บิทคอยน์และอีเทอเรียมขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาล ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่า ETF เป็นตัวเลือกการลงทุนที่ไม่แพง และสัญญาซื้อขายก็ไม่มีวันหมดอายุ ที่สำคัญ ราคาของ BITQ สามารถปรับตัวขึ้นได้ในวันที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลับมาเป้นขาขึ้นอีกครั้ง 

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ผมอยากจะเตือนเอาไว้คือ จงลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถยอมขาดทุนได้ อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นสิ่งสวยงาม และที่ราคา $8.31 ต่อหุ้นถือเป็นตำแหน่งที่ดีหากคิดจะลงทุนกับ BITQ แต่มันจะไม่สวยงามเลยหากว่าคุณนำเงินหรือสินทรัพย์ทั้งหมดในชีวิตที่มีไปรับความเสี่ยงลงทุนในตลาดคริปโตฯ เพียงอย่างเดียว

 
Statement:
The content of this article does not represent the views of fxgecko website. The content is for reference only and does not constitute investment suggestions. Investment is risky, so you should be careful in your choice! If it involves content, copyright and other issues, please contact us and we will make adjustments at the first time!

Related News

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。