Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,710 จุด เราคาดว่า SET จะยังคง ผันผวน จากความกังวลต่อสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย แม้จะมีแรงหนุนจาก Fund Flow จะยังคงไหลเข้าสู่ตลาด หุ้นเอเซีย รวมทั้ง SET รวมไปถึงแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม Commodity ที่ได้ประโยชน์จากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งราคาถ่านหิน และราคาน้ํามันดิบ แม้เราประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย จะไม่ กระทบไทยโดยตรง แต่เราประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ ปรับเพิ่ม กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทําให้ประมาณการ GDP ของไทยในปี 2565 ยังคงมี Downside กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนําเก็งกําไรหุ้นในกลุ่ม Oil Play (ตาม Trading Idea) และแนะนําลงทุนหุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล เลือก BDMS และ BH รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เลือก AOT (BK:AOT) MINT และ ERW หุ้น ในกลุ่มขนส่งในประเทศ เลือก BEM และ DMT ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากการปรับลดลงของ Bond Yield เลือก EGCO RATCH และ GPSC Trading Ideas: ราคาเชื้อเพลิงโลกยังมีแนวโน้มปรับเพิ่ม เรามองเป็นบวกต่อ BANPU PTTEP PTT (BK:PTT) SPRC TOP และ BCP - จากสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดแคนาดาประกาศระงับการนําเข้าน้ํามันจาก รัสเซีย ขณะที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตก ประกาศทัตธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT รวมถึงท่าทีของ สหรัฐฯ ล่าสุดได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐฯ และห้ามชาวอเมริกันทําธุรกรรมกับธนาคาร กลางรัสเซีย โดยเฉพาะการ Sanction รัสเซียในการเข้าถึงระบบ SWIFT จะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้า ซึ่ง รวมถึงสินค้าเกษตร และพลังงาน รวมทั้งยังทําให้ต้นทุนในการทําธุรกรรมของรัสเซียเพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบ SWIFT ทํา หน้าที่เชื่อมโยงธนาคารและสถาบันกว่า 11,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศ นอกจากนี้การที่สํานักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ํามันออกจากคลังสํารองจํานวน 60 ล้านบาร์เรล สะท้อนปัญหาอุปทานน้ํามันโลกมีไม่เพียงพอต่อ สถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ํามันดิบ และถ่านหินปรับเพิ่มอย่างมีนัยสําคัญ เรามองเป็นบวกต่อ หุ้นในกลุ่ม Oil play ใน ระยะสั้น อย่างไรก็ตามเราให้น้ําหนักเป็นเพียงการเก็งกําไร ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาราคาน้ํามันดิบและ ราคาถ่านหิน ตอบรับเชิงบวกต่อปัจจัย Geopolitics ไปมาก โดยราคน้ํามันดิบ (WTI) และราคาถ่านหิน (Newcastle) ส่งมอบเดือน เม.ย. 65 ในปี 2565YTD ปรับเพิ่ม 36.4% และ 104.29%

• ติดตามการประชุม OPEC+ (2 มี.ค.) และถ้อยแถลงประธานเฟด (2-3 มี.ค.) - ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ที่ (1) การประชุม OPEC+ วันนี้ (2 มี.ค.) เพื่อกําหนดนโยบายการผลิตสําหรับเดือน เม.ย. เรายังเชื่อว่า OPEC+ จะยังยึดข้อตกลงเดิม (ข้อตกลงในการประชุมเดือน ก.ค. 2564) ด้วยการเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน สําหรับแผนการผลิต น้ํามันในเดือน เม.ย. (2) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ จากทางสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของ รัฐบาลสหรัฐ (EIA) วันนี้ (2 มี.ค.) และ (3) ถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมี กําหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงิน ประจําสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ วันที่ 2 มี.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจําวุฒิสภา วันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้น 22.00 น. ตามเวลาไทย บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: HMPRO BDMS CPALL (BK:CPALL) และ CHG Company Update: HMPRO (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 18 บาท) แนวโน้ม 1Q65 เติบโต YoY - ปี 2565 ตั้งเป้า SSSG เติบโต 5-7%YoY และขยาย 7 สาขาใหม่ แนวโน้ม SSSG ในช่วง 1Q65 เป็นบวก เติบโตต่อเนื่อง ได้อานิสงส์จาก มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ช้อปดีมีคืน กําไรสุทธิ 4064 เพิ่มขึ้น 15%YoY และ 10496QoQ ประกาศ จ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น XD 20 เม.ย. จ่าย 6 พ.ค. แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 18 บาท Company Update: BDMS (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 27 บาท) คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY - คาดกําไรสุทธิ 1Q65 เติบโต YoY ต่อเนื่องจากมาตรการเปิดประเทศ ปี 2565 ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตจากการกลับมาใช้บริการของ ผู้ป่วยที่ไม่ใช่ COVID-19 และผู้ป่วยชาวต่างชาติ Fly-in ยังเชื่อว่าประมาณการกําไรสุทธิปี 2565 เติบโต 15%YoY มี ความเป็นไปได้ กําไรสุทธิ 4064 เติบโต YoY และ QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาท ต่อหุ้น XD 9 มี.ค. จ่าย 29 เม.ย. แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท อิงวิธี DCF Company Update: CPALL (เก็งกําไร., ราคาเป้าหมาย 70 บาท) เราคาดหมายจะเห็นกําไรสุทธิ 1Q65 เติบโต ต่อเนื่อง - คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY จากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งและการ รับร้งบโลตัสเต็มไตรมาส ได้อานิสงส์จากโครงการช้อปที่มีคืนในช่วง 1Q65 คงประมาณการกําไรสุทธิปี 2565 เติบโต 31%YoY กําไรปกติ 4Q60 ลดลง 189%YoY แต่เพิ่มขึ้น 9196QoQประกาศจ่ายเงินปันผล 0.60 บาทต่อหุ้น XD 28 เม.ย. จ่าย 20 พ.ค. แนะนํา “เก็งกําไร” ให้ราคาเป้าหมาย 70 บาท Company Update: CHG (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 4.4 บาท) คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY - คาด 1Q65 เติบโต YoY ยังได้ประโยชน์จาก Omicorn 5 ปัจจัยบวก หนุนกําไรปี 65 มาจาก (1) รายได้จากศูนย์หัวใจ 3 แห่ง (2) จํานวนผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น (3) ผู้ป่วยชาวต่างชาติกลับเข้ามาใช้บริการ หลังเปิดประเทศ (4) ขยายจํานวนเตียงใน CH304 และ RPC และ (5) การเปิดศูนย์มะเร็งในช่วง 2H65 การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็น ปัจจัยหนุนอีกครั้ง กําไรสุทธิ 4Q60 เติบโต 6159%YoY และ 1696QoQ ดีกว่าตลาดคาด ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.17 บาทต่อหุ้น XD 5 พ.ค. จ่าย 20 พ.ค. แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4.4 บาท • มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก BANPU BJC และ ORI

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities