โดย Peter Nurse

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในการซื้อขายช่วงต้นของวันศุกร์ในตลาดหุ้นยุโรป โดยทำกำไรชดเชยกับบางส่วนที่สูญเสียไปในเซสชั่นก่อนหน้าก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรรายเดือนของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ในเวลา 02:50 น. ET (06.50 GMT) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มของสกุลเงินอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 105.785 หลังจากร่วงลง 0.7% ในชั่วข้ามคืน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ 19 กรกฎาคม

จุดสนใจหลักของวันศุกร์คือรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ของเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะให้ข้อมูลว่าสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นอย่างไร

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การจ้างงาน จะเพิ่มขึ้น 250,000 ตำแหน่งจากเดือนที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวอย่างมากเมื่อเทียบกับการเติบโตจากการจ้างงาน 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน แม้ว่าตำแหน่งงานจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 19 เดือนติดต่อกันแต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าจำนวนชาวอเมริกันได้ยื่น ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอ่อนตัวลงและรายงานการจ้างงานจะได้รับการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพื่อยืนยันกับข้อมูลจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสิการการว่างงาน

ตัวเลขการจ้างงานที่หดตัวอาจบรรเทาแรงกดดันต่อ เฟด ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐานเป็นครั้งที่สามติดต่อกันในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายน

โดยมีการส่งสัญญาณมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายท่านที่ได้ให้ความเห็นสนับสนุนการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าธนาคารกลางยังคงยึดมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อลงโดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

EUR/USD ลดลง 0.1% เป็น 1.0230 คืนกำไรบางส่วนที่ทำได้จากช่วงก่อนหน้าที่ 0.8% ในชั่วข้ามคืน และคาดว่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลงอีกเนื่องจากความกังวลเรื่องวิกฤตพลังงานยังคงอยู่

“เราได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจยูโรโซน โดยเราได้เพิ่มภาวะถดถอยเข้าไปในไตรมาสที่กำลังจะมาถึง” นักวิเคราะห์จาก ABN Amro กล่าวในหมายเหตุ “มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญที่สุด คือหลังจากการบำรุงรักษาท่อส่งก๊าซ Nord Steam 1 ประจำปีในเดือนกรกฎาคม ที่จำนวนของก๊าซที่ส่งจากรัสเซียลดลงต่ำกว่าระดับที่จะทำให้เกิดวิกฤตด้านพลังงานในยูโรโซนได้”

GBP/USD ลดลง 0.1% เป็น 1.2143 หลังจากที่มีรายงานว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยจากธนาคาร Halifax ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีในเดือนกรกฎาคม โดยลดลง 0.1% จากเดือนมิถุนายน โดยรายงานได้เปิดเผยในวันนี้ สาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

ธนาคารกลางอังกฤษ เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมขึ้น 50 จุดพื้นฐานในวันพฤหัสบดีเป็น 1.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2008 เนื่องจากพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ สูงสุดในรอบ 40 ปี ธนาคารยังเตือนเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร

USD/JPY เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 133.19 AUD/USD ส่วนใหญ่ทรงตัวที่ 0.6967 ขณะที่ USD/CAD ขยับสูงขึ้นเป็น 1.2866 โดยเงินดอลลาร์แคนาดาได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงล่าสุด