ทำไมนักลงทุนตอนนี้ถึงมองทุกอย่างเป็นขาลงไปหมด ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น?
2022-05-23 18:40:07
more 
1322

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปขึ้นปราศรัยที่งานมหกรรมการเงิน TOLEXPO ของตลาดหลักทรัพย์อิตาลี ในเมืองมิลาน ซึ่งทำให้ผมได้มีโอกาสพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักลงทุนหลายคน ความรู้สึกที่ผมสามารถสัมผัสได้มีตั้งแต่ความกลัว ความวิตกกังวล ไปจนถึงความไม่แน่นอน มองไปทางไหนก็มีแต่ความคิดเชิงลบทั้งหมด นักลงทุนสองสามคนมีแนวโน้มว่าต้องการช้อนซื้อในวันที่ตลาดปรับตัวลดลงมา แม้จะมีคนคิดเช่นนั้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยอยู่มาก

เรามาดูสถานการณ์ปัจจุบัน โดยอ้างอิงจากข้อมูลตัวเลข และเหตุผลเป็นหลัก

หากเราดูดัชนีเอสแอนด์พี 500 ซึ่งเป็นมาตรวัดหลักตัวหนึ่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะพบว่าดัชนีได้ร่วงลงมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแล้ว 18.16% นอกจากนี้เรายังทราบด้วยว่าการปรับตัวลดลง (คำนวณจากการปิดของวันพุธ) ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนั้นถือเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดเป็นอันดับสองของประวัติศาสตร์ตลาดลงทุนวอลล์สตรีทSource: CharlieBilelloSource: CharlieBilello

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มักจะมีคนอยู่ทั้งหมดสองประเภท ประเภทแรกคือคนที่มองว่ายังเหลือน้ำอยู่อีกตั้งครึ่งแก้ว กับคนที่มองว่าเหลือน้ำอีกแค่ครึ่งแก้ว หรือจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือในช่วงเวลาแบบนี้มีทั้งคนที่มองว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย และบางคนที่มองว่าตอนนี้คือโอกาส ส่วนตัวแล้วผมเชื่อไปทางด้านโอกาสนะ แต่คำว่าโอกาสของผมนั้นก็มีเหตุผลรองรับ เพราะผมเป็นนักลงทุน และกลยุทธ์ของผมถูกสร้างขึ้นเพื่อมองยาวไปจนถึงปี 2030 ช่วงเวลาที่ผันผวนนี้ ถือเป็นเพียงการพักฐานครั้งหนึ่ง ที่นักลงทุนระยะยาว (อย่างผม) อาจจะต้องเผชิญ

ตอนนี้ทุกคนกำลังพูดถึงแต่คำว่าภาวะถดถอย ค่าเฉลี่ยของการปรับฐานในช่วงภาวะถดถอยคือ -24% (ดูที่กราฟด้านล่าง) เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบ ให้คำนึงถึงความเป็นไปได้ของตลาดที่อาจจะลงไปอีก -25%/-30% แน่นอนว่าอาจจะมีการปรับตัวลดลงต่อได้อีกในอนาคต แต่เราต้องดูความน่าจะเป็นและความถี่ทางสถิติSource: Goldman SachsSource: Goldman Sachs

เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับระดับราคาที่เป็นไปได้ของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในช่วงระหว่างปี 2022 -2023 โดยจำลองออกมาอยู่ภายใต้ 3 สถานการณ์จำลอง (เป็นกลาง เป็นบวก และเป็นลบ) กรอบการคำนวณของมอร์แกนนั้น อยู่ต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบัน 17% และสูงกว่าระดับราคาปัจจุบัน 11% ตามรูปที่ปรากฎอยู่ด้านล่าง 

เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าการคาดคะเนประเภทนี้แทบไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่ได้เอาไว้ใช้ประโยชน์สำหรับการเข้าวงสนทนาหรูๆ เนื่องจากเราไม่สามารถทำนายอนาคตได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงพูดเสมอว่าให้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ และวิธีการทำให้ระบบการลงทุนภายใต้บางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง สามารถใช้งานได้จริง ผมคิดว่าวิธีนี้มีประโยชน์มากกว่า

Source: Morgan StanleySource: Morgan Stanley

ถ้าดูในกราฟด้านล่าง เราจะสังเกตเห็นว่าแม้ตลาดจะปรับตัวลดลงไปถึงระดับ -18% ระดับเงินสดของนักลงทุนที่ยังคงรอจังหวะอยู่มีจำนวนมากกว่าที่นักวิเคราะห์แง่ร้ายประเมินมากนัก ไม่ใช่แค่เพียงแค่ช่วงโควิด แต่ยังรวมถึงวิกฤตซับไพรม์ด้วยSource: BoFASource: BoFA

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในปัจจุบันเคลื่อนไหวไปตามกระแสมากเกินไป เหมือนกับลูกบอลที่ถูกกระแทกให้ไปซ้ายทีขวาทีโดยที่ไม่ได้เข้าใจจริงๆ ว่าอันที่จริงแล้วตอนนี้กระแสเงินสดในตลาดตามความเป็นจริงแล้วมีระดับเป็นอย่างไร เงินสดเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากการขาย (ขาดทุน) หรือการจัดการที่ไม่ถูกต้องมาก่อน

เป็นอีกครั้งที่ผมต้องขอนุญาตหัวเราะ สถานการณ์ในตลาดตอนนี้เหมือนกับเวลาที่ผู้คนชอบทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาควรทำ เมื่อเข้าไปซื้อของในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า นั่นคือ ยอมซื้อสินค้าในราคาปกติแทนที่จะรอลดราคา ช่วงเวลานี้เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งในพฤติกรรมมนุษย์ และควรทำให้นักลงทุนที่ยังมีสติอยู่ตระหนักได้ว่าบ่อยแค่ไหนที่การลงทุนที่ผิดพลาดไม่ได้เกิดจากตลาด แต่เกิดจากตัวเอง

Tuyên bố:
Nội dung bài viết này không thể hiện quan điểm của trang web FxGecko, nội dung chỉ mang tính chất tham khảo không mang tính chất tư vấn đầu tư. Đầu tư là rủi ro, hãy lựa chọn cẩn thận! Nếu có bất kỳ vấn đề nào liên quan đến nội dung, bản quyền,… vui lòng liên hệ với chúng tôi và chúng tôi sẽ điều chỉnh trong thời gian sớm nhất!

Các bài báo liên quan

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。