3 กองทุน ETF ป้องกันภัยคุกคามจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจมาในรูปแบบไซเบอร์
2022-02-28 20:15:16
more 
1380

ทันทีที่สงครามระหว่างรัสเซียยูเครนอุบัติขึ้น ความสนใจของตลาดลงทุนก็หันไปที่วิธีการปกป้องความเสี่ยง ซึ่งในทีนี้รวมถึงการลงทุนในกองทุน ETF ที่เน้นถือหุ้นของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะรัสเซียก็ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ชื่อว่าชอบทำสงครามบนโลกไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง ความเชื่อของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถือว่ามีหลักฐานอ้างอิง เพราะสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนี S&P Kensho Cyber Security Index สามารถมอบผลตอบแทนคืนแก่ผู้ถือครองได้มากกว่า 3.5%

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีประเด็นรัสเซียยูเครนเข้ามาเกี่ยวข้อง นักวิเคราะห์หลายคนก็เชื่อว่าธุรกิจความปลอดภัยในโลกไซเบอร์มีแต่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่ามูลค่าตลาดของวงการนี้มีโอกาสเติบโตขึ้นไปถึง $360,000 ภายในปี 2028 หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับว่าอัตราการเติบโตต่อปี (CARG) ของวงการความปลอดภัยทางไซเบอร์มีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก 12% จากราคาในปัจจุบัน 

โดยปกติแล้ว สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำอยู่ทุกวันคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้าไปในระบบ แพลตฟอร์ม หรือเครือข่ายที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นคอมพิวเตอร์ มือถือ แอปพลิเคชัน ฯลฯ ในบทความนี้เราจะพาไปดูสามกองทุน ETF ที่ลงทุนกับวงการรักษาความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์

1. Global X Cybersecurity ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $29.73
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $23.97 - $35.10
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.31%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.50% ต่อปี

กองทุน ETF ตัวแรกมีชื่อว่า Global X Cybersecurity ETF (NASDAQ:BUG) เป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจต่างประเทศ ที่ได้รับอานิสงส์จากความต้องการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนครั้งแรกเดือนตุลาคมปี 2019 BUG Weekly TTMBUG Weekly TTM

BUG ถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 32 บริษัท อ้างอิงราคาตามดัชนี Indxx Cybersecurity Index หากแบ่งแยกกลุ่มหุ้นออกเป็นสัดส่วน จะพบว่า BUG ลงทุนมากที่สุดกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสำหรับข่าวสารข้อมูล 98.1% ตามมาด้วยกลุ่มโทรคมนาคม 1.6% และอุตสาหกรรม 0.4% ประเทศที่ BUG ลงทุนมากที่สุดคือธุรกิจในสหราชอาณาจักร 13.8% อิสราเอล 12.8% ญี่ปุ่น 5.7% เกาหลีใต้ 0.6% และแคนาดา 0.4% 

หุ้น 10 อันดับแรกที่ BUG ถือครองคิดเป็น 58% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $1,020 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังเหล่านั้นได้แก่ Check Point Software (NASDAQ:CHKP), Palo Alto Networks (NASDAQ:PANW), Fortinet (NASDAQ:FTNT), Avast (OTC:AVASF), NortonLifeLock (NASDAQ:NLOK), Zscaler (NASDAQ:ZS) และ Trend Micro (OTC:TMICY)

ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด BUG ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 12% สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021 อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน BUG วิ่งลงมาแล้ว 6.4% นักลงทุนที่สนใจถือครองในระยะยาว สามารถลงทุนกับกองทุนตัวนี้ได้ที่ระดับราคาในปัจจุบันเลย

2. WisdomTree Cybersecurity Fund

- ระดับราคาปัจจุบัน: $22.83
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $20.09 - $30.58
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.50%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.45% ต่อปี

กองทุนตัวถัดมามีชื่อว่า WisdomTree Cybersecurity Fund (NASDAQ:WCBR) เป็นกองทุนที่ลงทุนกับบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกเช่นกัน กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2021 อย่างไรก็ตาม WCBR ยังถือว่าเป็นกองทุนขนาดเล็ก เพราะมีสินทรัพย์รวมทั้งหมดอยู่เพียง $35.6 ล้านเหรียญเท่านั้น WCBR Weekly TTMWCBR Weekly TTM

ปัจจุบัน WCBR ถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 27 ตัว เกือบ 80% ของหุ้นยังเป็นของบริษัทในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยอิสราเอล สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และแคนาดา หุ้น 10 อันดับแรกของบริษัทคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ทั้งหมด หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Palo Alto Networks, Datadog (NASDAQ:DDOG), Cloudflare (NYSE:NET), Tenable Holdings (NASDAQ:TENB), Rapid7 (NASDAQ:RPD) และ Okta (NASDAQ:OKTA)

ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด WCBR ให้ผลตอบแทนคืนมาแล้วเกือบ 1% อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน WCBR วิ่งลงมาแล้ว 13% นักลงทุนที่สนใจลงทุนกับการเติบโตของวงการความปลอดภัยทางไซเบอร์ ควรทำการบ้านอย่างหนักก่อนตัดสินใจลงทุนกับกองทุนน้องใหม่ตัวนี้

3. ProShares Ultra NASDAQ Cybersecurity

- ระดับราคาปัจจุบัน: $42.88
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $30.12 - $59.11
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.99% ต่อปี

กองทุนสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้มีชื่อว่า ProShares Ultra NASDAQ Cybersecurity ETF (NASDAQ:UCYB) ลงทุนในอนุพันธ์หุ้นของบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ UCYB ประกาศอย่างชัดเจนว่ามีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ถือครองสามารถทำกำไรรายวันกลับคืนมาได้มากกว่าสองเท่า ดังนั้นกองทุนนี้จึงไม่เหมาะกับนักลงทุนสายซื้อและถือยาว หรือนักลงทุนมือใหม่ แต่เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้วเท่านั้น UCYB Weekly TTMUCYB Weekly TTM

UCYB เปิดให้เริ่มต้นลงทุนวันแรกในเดือนมกราคมปี 2021 อ้างอิงราคาตามดัชนี NASDAQ CTA Cybersecurity Index มีสินทรัพย์รวมทั้งหมด $6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ครึ่งหนึ่งของบริษัทที่ UCYB เลือกลงทุนเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ตามมาด้วยกลุ่มผู้ให้บริการด้านไอที ผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์สื่อสาร บริการระดับมืออาชีพ และบริษัทการบิน อวกาศและการป้องกันประเทศ

หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Accenture (NYSE:ACN), Cisco Systems (NASDAQ:CSCO), Palo Alto Networks, CrowdStrike (NASDAQ:CRWD), Cloudflare และ Juniper Networks (NYSE:JNPR)

ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด UCYB ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งหมด 24.2% แม้ว่าในปี 2022 จะยังทำขาขึ้นได้ไม่เท่ากับระยะเวลา 12 เดือน แต่ก็สามารถวิ่งขึ้นมาได้ 17% แล้ว นักลงทุนระยะสั้นที่สนใจลงทุนกับบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ ควรเก็บกองทุนตัวนี้เอาไว้ในการพิจารณา

Tuyên bố:
Nội dung bài viết này không thể hiện quan điểm của trang web FxGecko, nội dung chỉ mang tính chất tham khảo không mang tính chất tư vấn đầu tư. Đầu tư là rủi ro, hãy lựa chọn cẩn thận! Nếu có bất kỳ vấn đề nào liên quan đến nội dung, bản quyền,… vui lòng liên hệ với chúng tôi và chúng tôi sẽ điều chỉnh trong thời gian sớm nhất!

Các bài báo liên quan

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。