โดย Barani Krishnan 

– ดูเหมือนว่าตลากน้ำมันกลับมาเป็นตลาดกระทิงอีกครั้ง — มีรายงานว่าเยอรมนีพร้อมที่จะห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย — ทำให้ตลาดทำกำไรก่อนการประชุม OPEC+ ครั้งต่อไปซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้

หลังจากความไม่แน่นอนล่าสุดจากโควิด19 ของจีนและการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้อง น้ำมันดิบได้รับสัญญาณสีเขียวเต็มรูปแบบในวันพฤหัสบดี จากรายงานของ Wall Street Journal ว่าเบอร์ลินไม่ได้ต่อต้านการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้อุปทานตึงตัวขึ้นได้อีกส่งผลตลาดพลังงานโลกมีความตึงเครียด

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บทความของ WSJ สะท้อนความคิดเห็นจากรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี Robert Habeck เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อเขากล่าวว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปสามารถรับมือกับการคว่ำบาตรในการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย และหวังว่าจะหาวิธีแทนที่น้ำมันของรัสเซียด้วยการจัดหาอื่น ๆ 

ราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนตัวในพื้นที่ติดลบ ก่อนรายงานของ WSJ จะทำให้ราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเทรดเดอร์ต่างตั้งคำถามว่าประเทศในยุโรปบางประเทศที่รับน้ำมันแทบทุกหยดจากรัสเซียจะรอดจากการถูกสั่งห้ามนี้ได้อย่างไร เยอรมนีเองนำเข้าน้ำมัน 35% จากรัสเซียก่อนการรุกรานของยูเครน

เมื่อเวลา 13:13 น. ET (17:13 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันโลกที่ซื้อขายในลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์หรือ 1.6% เป็น 106.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบWTI ดัชนีราคาน้ำมันดิบสหรัฐที่ซื้อขายในนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์หรือ 1.6% เป็น 106.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กำหนดการของ OPEC+ ที่จะประชุมกันในสัปดาห์นี้ ตลาดอาจฟื้นตัวได้จากระดับต่ำสุดอันยาวนานที่ราคาได้ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้

กลุ่ม OPEC+ ซึ่งนำโดยองค์กร 13 ประเทศที่ควบคุมโดยโดยซาอุดิอาระเบียและ OPEC ที่นำโดยรัสเซีย ได้ผลักดันราคาให้สูงขึ้นทุกครั้งที่พบกันในปีที่ผ่านมา โดยพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอที่ให้ผลิตเพิ่มเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันในการผลิตรายเดือน 

นอกเหนือจากการประชุม OPEC+ ในสัปดาห์หน้า ราคาอาจถูกกดดันอีกครั้ง นักวิเคราะห์บางคนกล่าว

“ปัจจัยเดียวกันนี้ยังคงอยู่ที่นี่ และอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการฝ่าแนวต้านในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปิดเมืองของจีน การเติบโตของผลผลิตจากกลุ่ม OPEC+ ที่ชะลอตัว การหยุดชะงักของอุปทานใหม่ การปล่อยน้ำมันสำรองที่มากขึ้น ฯลฯ” เครก เออร์แลม นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว .

“ในท้ายที่สุด เรายังคงเห็นการควบรวมกิจการในตลาดน้ำมันดิบ โดยช่วงที่กระชับขึ้นและอาจเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการฝ่าวงล้อมที่ผันผวนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

“ด้วยเหตุนี้ น้ำมันจากโลกเสรีจะมีราคาแพงกว่า และน้ำมันจากม่านเหล็ก (Iron Curtain) จะมีมูลค่าลดลงอีกและถูกลดราคาให้หนักขึ้น” จอห์น คิลดัฟฟ์ หุ้นส่วนของ Again Capital ในนิวยอร์ก กล่าวโดยใช้ ข้อมูลอ้างอิงยุคโซเวียตสำหรับน้ำมันรัสเซีย

อดัม บัตตัน นักวิเคราะห์บนแพลตฟอร์ม ForexLive กล่าวว่าการเมืองอาจทำให้สถานการณ์ในยุโรปบางรัฐซับซ้อนยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เขากล่าวว่ามีแผนที่จะจัดหาโรงกลั่นในเมืองกดัญสก์ (Gdansk) ด้วยน้ำมันที่ไม่ใช่ของรัสเซีย แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่าโรงกลั่นที่เป็นปัญหานั้นเป็นเจ้าของโดย Rosneft ของรัสเซีย

“สิ่งที่ (ไม่ได้กล่าวถึง) ที่นี่คือประเทศอื่น ๆ ในยุโรปตะวันออกที่พึ่งพาน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งบางประเทศใช้น้ำมัน 100%” บัตตัน กล่าว