ปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลนได้ส่งผลให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกปรับตัวขึ้นในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จากที่ราคาน้ำมันเคยร่วงลงไปจนถึงระดับติดลบ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในปี 2014 ได้ เช่นเกียวกันกับราคาทองแดงที่อาจจะสามารถทำลายจุดสูงสุดในเดือนพฤษภาคมลงได้ หากการวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ที่มองว่ากำลังการผลิตแร่ทองแดงในเหมือนที่ต่ำกว่าปกติจะเป็นประเด็นดันราคาทองแดงให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ บริษัทผู้ส่งออกแร่โลหะ MetalMiner ได้ทำการสำรวจตลาดและพบว่า การพักฐานของกราฟทองแดงทางเทคนิคในตอนนี้อาจจะทำให้ความหวังของนักลงทุนขาขึ้นดับลง ราคาทองแดงมีโอกาสพักฐานยาว จนทำลายขาขึ้นทั้งหมดที่สร้างมาในช่วงระยะหลัง

ข้อมูลจาก The International Copper Study Group ระบุว่าตลาดทองแดงที่ถูกสกัดแล้วทั่วโลกจะมีความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในปีนี้ ทางกลุ่มยังคาดการณ์ว่าอาจจะมีการขาดดุลเพียงเล็กน้อยที่ 42,000 ตัน และมีส่วนเกินจำนวนมหาศาลที่ 328,000 ตันในปีหน้า สาเหตุเป็นเพราะซัพพลายทองแดงใหม่ที่จะเข้ามา

เหตุผลที่โกลด์แมน แซคส์เชื่อว่าวงการทองแดงจะประสบปัญหาซัพพลายขาดแคลนเป็นเพราะการหยุดซื้อทองแดงจะต่างประเทศของจีน ซึ่งใครๆ ก็ทราบว่าจีนคือลูกค้าคนสำคัญที่กำลังใช้ทองแดงอย่างมหาศาลเพื่อสร้างประเทศที่เต็มไปด้วยพลังงานสะอาด โกลด์แมนเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็ว ซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัดจะเป็นตัวเร่งให้ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้น

ที่มา: skcharting.com

สัปดาห์ที่แล้ว โกลด์แมน แซคส์ได้วิเคราะห์ราคาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าสามเดือนว่าจะมีโอกาสวิ่งขึ้นไปถึง $10,500 ตัน บนตลาดแลกเปลี่ยนโลหะมีค่า ณ กรุงลอนดอน (LME) ตัวเลขดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนพฤษภาคมเพียง $246 เท่านั้น ส่วนทองแดงสปอตนั้นเชื่อว่าจะปรับตัวขึ้นหลังจากทองแดงล่วงหน้าไม่นาน

นิตยสาร Financial Times วิเคราะห์ว่าอัตราเปรียบเทียบความต่างระหว่างราคาฟิวเจอร์สและราคาสปอตมีราคาต่างกันเพียง $350 ในขณะที่ MetalMiner ให้ความเห็นว่าการวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ที่เป็นมาตรฐานที่เชื่อถืออย่างหนึ่งของโลกการเงิน คือการส่งสัญญาณขู่ว่าอย่าขึ้นสูงมากเกินไปดีๆ นี่เอง

เมื่อไปพิจารณาปริมาณแร่ทองแดงคงคลังบนตลาด LME ก็พบว่ามีระดับที่ลดลง และไม่ใช่การลดลงธรรมดา แต่เป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 1974 สำนักข่าวรอยเตอร์ถึงกับให้คอมเมนต์ว่า นี่คือการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าโลกกำลังต้องการแร่ทองแดง โกลด์แมน แซคส์มั่นใจว่าปริมาณทองแดงคงคลังจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดตลอดกาลภายในสิ้นปี 2021 นี้ และอาจทำให้ราคาหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโลหะทองแดงต้องปรับตัวลดลงในไตรมาสที่สองของปีหน้า

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อมูลออกมาจาก LME บอกว่าทองแดงคงคลังที่พร้อมจะส่งมอบมีเพียง 14,150 ตันเท่านั้น ลดลงจากตัวเลข 200,000 ตันในเดือนกันยายนที่พึ่งผ่านมาอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองแดงมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น

การเคลื่อนของของกราฟราคาทองแดงในสัปดาห์นี้จะเห็นว่าก่อนตลาดนิวยอร์กเปิดเมื่อวาน ราคาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าบนตลาด COMEX มีราคาอยู่ที่ $4.64 ต่อ Ib เฉพาะเดือนตุลาคม ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 13% หากราคาทองแดงตอนนี้ยังรักษาขาขึ้นเช่นนี้ต่อไปได้ มีโอกาสที่จะทำลายสถิติขาขึ้นมากที่สุดของเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ที่เคยทำเอาไว้ได้ 15%

อย่างไรก็ตาม ราคาซื้อขายทองแดงในช่วงสามวันล่าสุดปรากฎว่ากราฟมีการพักตัวมาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม หลังจากสร้างราคาปิดที่ $4.73 ระดับราคาปัจจุบันก็ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดล่าสุด $4.89 ประมาณ 5%

คำถามก็คือ ทองแดงยังอยู่บนเส้นทางการสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอยู่หรือไม่?

นาย Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก skcharting.com วิเคราะห์ว่า

“การพักตัวที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจดำเนินต่อไปอีกสักระยะ สำหรับนักลงทุนบางคน จุดสูงสุดที่ $4.88 หรือ $4.82 นั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก จึงเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจพิจารณาว่าราคาทองแดงได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุด และสมควรพักฐานเพื่อรอกองกำลังสนับสนุนในอนาคต เป็นไปได้ที่เราจะเห็นราคาทองแดงในกราฟรายวันพักฐานอยู่ระหว่าง $4.40 และ $4.20”

“เมื่อพิจารณากราฟทองแดงด้วยอินดิเคเตอร์” เขากล่าวต่อ “เส้นค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ 50 EMA ที่ $4.07 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับในระยะกลาง ซึ่งเป็นระดับที่เข้าใจได้ หากกราฟจะลงมา และได้แรงสนับสนุนจากนักลงทุนขาขึ้นในบริเวณนี้ จุดที่ผมจะพิจารณาว่ากราฟทองแดงได้เปลี่ยนเป็นขาลงแล้วคือการวิ่งลงต่ำกว่า $3.96 ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”

“แต่ฝั่งขาขึ้นก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป” เขากล่าวปิดท้าย “เมื่อดูอินดิเคเตอร์ SRSI แล้วจะเห็นว่าเส้นค่าเฉลี่ยนั้นวิ่งอยู่ที่ 34/46 คือยังมีโอกาสที่ราคาทองแดงจะขึ้นไปที่ $5 ได้ และยิ่งถ้ากราฟรายเดือนสามารถปิดแท่งเหนือ $4.88 ยิ่งมีโอกาสส่งราคาทองแดงขึ้นได้ในระยะยาว”