3 หุ้นเด่นที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นในยามที่ความกดดันจากโอมิครอนเข้าจู่โจมก่อนคริสต์มาส
2021-12-23 16:40:28
more 
845

สัปดาห์นี้ตลาดการเงินโลกก็ยังคงอยู่ในสภาวะความผันผวนอีกเช่นเคย หุ้นในตลาดวอลล์สตรีทยังคงได้รับแรงกดดันจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดใหม่ “โอมิครอน” ที่กดดันให้นักลงทุนพากันเทขายมากที่สุดครั้งหนึ่งของปี 2021 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงความรุนแรงของโอมิคครอน นอกจากจะรู้เพียงแต่ว่าสามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม S&P 500 DailyS&P 500 Daily

ความไม่แน่นอนที่มีแนวโน้มว่าจะลากยาวไปถึงปีใหม่ 2022 นำมาซึ่งคำถามว่ายังมีหุ้นตัวไหนที่น่าลงทุน หรือมีหุ้นตัวไหนที่จะสามารถทำกำไรได้ในช่วงเวลาแบบนี้หรือไม่ ในบทความนี้เราจะพาไปดูหุ้นที่ได้อานิสงส์จากการระบาด

1. Pfizer

- ผลงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน: +60.1%
- มูลค่าตามราคาตลาด: $330,900 ล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการระบาดครั้งนี้แบบเต็มๆ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้ผลิตวัคซีนอย่างไฟเซอร์ (NYSE:PFE) นี่คือหุ้นในกลุ่มเวชภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในปี 2021 ความต้องการวัคซีนของไฟเซอร์ที่มีเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนช่วยให้บริษัทยังสามารถมีกำไรเติบโตได้ต่อไป และไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฟเซอร์และพาร์ทเนอร์ของเขา “ไบโอเอ็นเทค” (NASDAQ:BNTX) จะถูกจารึกว่าเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาลของสหรัฐอเมริกา

จากความสำเร็จในยอดขายที่ระบุในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ทำให้ไฟเซอร์กล้าปรับตัวเลขยอดขายตลอดทั้งปี 2021 ขึ้น 7.5% เป็น $36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และในวันที่ 2 พฤศจิกายน ไฟเซอร์ก็ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของบริษัทขึ้นในปี 2022 พวกเขาให้เหตุผลว่าการต่อสู่กับโควิดที่ยังไม่จบ ประกอบกับความต้องการใช้วัคซีนของไฟเซอร์มาฉีดให้เด็กจะทำให้บริษัทมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์โรคระบาด ไฟเซอร์คาดการณ์ว่าโควิดอาจจะอยู่กับมนุษยชาติไปจนถึงอย่างน้อยปี 2024 และสำหรับการต่อสู้กับไวรัสตัวใหม่อย่างโอมิครอน ตอนนี้บริษัทก็ได้เร่งอัปเดตเวอร์ชันวัคซีนของตนให้มีลักษณะเฉพาะที่จะมาต่อกรกับโอมิครอนได้ นอกจากนี้ไฟเซอร์ยังประกาศแผนผลิตวัคซีนเข็มสามสำหรับเด็กอายุ 2-16 ปี และยาโควิดแบบเม็ด ซึ่งพวกเขาอ้างว่าสามารถป้องกันโควิดได้ 90% และกำลังรอการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาอยู่Pfizer Daily ChartPfizer Daily Chart

ปีนี้หุ้นของไฟเซอร์เริ่มต้นที่ราคา $36.81 และมีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดเมื่อวันอังคารนี้อยู่ที่ $58.95 ปรับตัวลดลงมาไม่มากจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $61.71 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม เมื่อเทียบกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเจ้าอื่นๆ อย่างเช่น  Johnson & Johnson (NYSE:JNJ), AstraZeneca (NASDAQ:AZN), Merck (NYSE:MRK) และ Eli Lilly (NYSE:LLY) ต้องยอมรับว่าหุ้นไฟเซอร์ปรับตัวขึ้นได้มากที่สุด ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน หุ้นไฟเซอร์ปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 60% เมื่อเทียบกับดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500ในช่วงเวลาเดียวกัน

ผมเชื่อว่าหุ้นไฟเซอร์จะยังเป็นผู้นำของกลุ่มเวชภัณฑ์ในปีหน้า และจะยิ่งทำผลงานได้ดีมากขึ้นในวันที่การระบาดของโอมิครอนขึ้นถึงจุดสูงสุด เช่นเดียวกันนักวิเคราะห์จาก InvestingPro มีความเห็นว่าหุ้นไฟเซอร์มีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก 25% จากระดับราคาปัจจุบัน

IInvestingPro: 25% upside for PfizerInvestingPro: 25% upside for Pfizer

Chart: InvestingPro

2. Thermo Fisher Scientific

- ผลงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน: +38.5%
- มูลค่าตามราคาตลาด: $254.300 ล้านเหรียญสหรัฐ

หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตชุดอุปกรณ์ตรวจสอบวินิจฉัยโรค และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับห้องทดลองที่ใหญ่ที่สุด Thermo Fisher Scientific (NYSE:TMO) ถือเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2021 การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่จบทำให้มีความต้องการอุปกรณ์ตรวจสอบว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่เพิ่มมากขึ้น

อุปกรณ์ของ TFS ได้รับการอนุมัติให้ใช้สำหรับยามฉุกเฉินได้จาก FDA เมื่อเดือนมีนาคมปี 2020 มีรายได้ในไตรมาสที่ 3 $2,050 ล้านเหรียญสหรัฐ นี่เป็นยอดขายที่ได้มาจากการขายบริการและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับโควิดล้วนๆ และยิ่งตอนนี้ ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอน ยิ่งทำให้บริษัทมีแนวโน้มว่าจะสามารถขายชุดตรวจสอบโควิดได้มากขึ้นในปี 2022 

ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม TFS สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อเห็นเช่นนั้น TFS จึงได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในปีหน้าขึ้นจากปีนี้อีก 15% คิดเป็นเงิน $37,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนกำไรของปีนี้ ที่ทำได้จากโควิดถูกปรับเพิ่มขึ้นจาก $6,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นเป็น $7,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2022 TFS เชื่อว่ากำไรรวมตลอดทั้งปีจะสามารถเพิ่มขึ้นเป็น $40.500 ล้านเหรียญสหรัฐได้ ตราบใดที่การแพร่ระบาดยังไม่จบสิ้นThermo Fisher Daily ChartThermo Fisher Daily Chart

ในปี 2021 หุ้นของ TFS สามารถเอาชนะดัชนีเอสแอนด์พี 500 ไปได้ ตลอดทั้งปีปรับตัวขึ้นมาแล้ว 40% ช่วงต้นปี 2021 ราคาหุ้นของ TFS มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $465.78 แต่ตอนนี้กำลังอยู่บนเส้นทางการขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ $666.65 ให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่ย่อตัวลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ $645.78 ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต ทำให้นักวิเคราะห์จาก InvestingPro คาดว่ามีโอกาสที่หุ้น TFS จะปรับตัวขึ้นอีก 10% ขึ้นไปยัง $714.98 จากระดับราคาปัจจุบัน

InvestingPro 10% upside for Thermo FisherInvestingPro 10% upside for Thermo Fisher

Chart: InvestingPro

3. Datadog

- ผลงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน: +80.3%
- มูลค่าตามราคาตลาด: $55,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทผู้ให้พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสารนามดาตาด็อก (NASDAQ:DDOG) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี 2021 ในวันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ความต้องการระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะดาต้าด็อก แต่หุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ต่างก็พากันขยับตัวเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นเฟดเอ็กซ์(NYSE:FDX) เอทีแอนด์ที (NYSE:T) และแอร์บีแอนด์บี(NASDAQ:ABNB)

ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนถึงปัจจุบัน หุ้นของดาต้าด็อกได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 80% ราคาหุ้นเคยซื้อขายกันที่ $98.44 ในวันที่ 1 มกราคม และสามารถขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ที่ $199.68 ได้เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ก่อนที่จะย่อตัวลดลงมาวิ่งอยู่ที่ $177.49 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาDatadog Daily ChartDatadog Daily Chart

เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของดาต้าด็อกจะยังเป็นที่ต้องการของตลาดต่อไป ตราบใดที่ความต้องการระบบการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ยังเป็นที่ต้องการในยุคที่อาจจะต้องกลับไปทำงานจากที่บ้านอีกครั้ง ที่สำคัญ โรคระบาดได้ทำให้องค์กรไม่ว่าจะเอกชนหรือรัฐบาลต่างเล็งเห็นความสำคัญในการแปลงข้อมูลให้เข้าสู่ดิจิทัล ที่มีการเก็บข้อมูลบนคลาวด์มากขึ้น ทำให้ซอฟต์แวร์ประเภทรักษาความปลอดภัยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ในรายงานผลประกอบการเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน อัตราการเติบโตของกำไรแบบปีต่อปีเพิ่มขึ้น 160% เป็น $0.13 ต่อหุ้น ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 75%  สร้างสถิติใหม่ที่ตัวเลข $270.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ข้อมูลจากรายงานผลประกอบการยังระบุอีกว่ามีลูกค้าจำนวน 1,610 รายที่ยินดีชำระค่าสมาชิกเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า $100,000 เหรียญสหรัฐ นี่คือตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 1,015 รายในปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 60% 

ดาต้าด็อกคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตนี้จะยังสามารถไปต่อได้ไม่มีสะดุดในไตรมาสที่ 4 ปี 2021 และเชื่อว่าตัวเองจะมีอัตราการเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 64% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า และอาจจะได้เห็นจุดสูงสุดตลอดกาลของกำไรสูงสุดใหม่ที่ $291 ล้านเหรียญสหรัฐ

Statement:
The content of this article does not represent the views of fxgecko website. The content is for reference only and does not constitute investment suggestions. Investment is risky, so you should be careful in your choice! If it involves content, copyright and other issues, please contact us and we will make adjustments at the first time!

Related News

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。