โดย Geoffrey Smith

– ธนาคากลางอังกฤษประกาศมาตรการเพิ่มเติมในวันจันทร์เพื่อหนุนกองทุนบำเน็จบำนาญที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายจากรัฐบาลของสหราชอาณาจักรในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ธนาคารได้กำหนดงบประมาณด้านสภาพคล่อง 65 พันล้านปอนด์ (72 พันล้านดอลลาร์) เพื่อหนุนตลาดพันธบัตรเมื่อปลายเดือนกันยายนซึ่งคาดว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดโดยเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์

แต่ธนาคารได้จำกัดการซื้อจนถึงขณะนี้ โดยซื้อเพียง 5 พันล้านจากพันธบัตรที่เป็นไปได้ 40 พันล้านปอนด์ การเข้าอดังกล่าวทำให้ปริมาณเงินของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นการยากที่ธนาคารจะลดอัตราเงินเฟ้อซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 10%

นอกจากนี้ ธนาคารยังกล่าวว่าจะแทนที่ระบบฉุกเฉินที่ใช้ในปัจจุบันด้วยด้วยวงเงินใหม่ที่จะให้สภาพคล่องแก่ตลาด ที่ไม่ใช่การเข้าซื้อพันธบัตรเพียงอย่างเดียว

ระบบใหม่จะถูกเรียกว่า Temporary Expanded Collateral Repo Facility (TECRF) จะขยายขอบเขตหลักประกันที่ธนาคารสามารถใช้เพื่อเข้าถึงกองทุนของธนาคารกลาง

โดยระบบใหม่จะเพิ่มทางเลือกใหม่เข้าไปในทางเลือกที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับสถาบันที่ต้องการสภาพคล่อง ธนาคารยังเสนอการดำเนินการสินเชื่อ Repo ระยะยาวที่ดำเนินการเป็นประจำทุกวันอังคารและสินเชื่อ Repo ระยะสั้นแบบถาวรแห่งใหม่ซึ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเสนอเงินสำรองไม่จำกัดจำนวนตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารทุกวันพฤหัสบดี

ความต้องการสภาพคล่องของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกองทุนกองทุนบำเน็จบำนาญหลายแห่งจำเป็นต้องจัดหาหลักประกันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อเป็นหลักประกันตราสารอนุพันธ์ที่ธนาคารถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่เรียกว่า "การลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ"

LDI กลายเป็นที่นิยมในฐานะที่มีความเสี่ยงต่ำในการให้ผลตอบแทนกองทุนกองทุนบำเน็จบำนาญในยุคที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ หลังจากที่ ควาซี่ กวาเต็ง รัฐมนตรีกระทรวงกลางคลังได้ดำเนินการนโญบายที่เขาเรียกว่า “งบประมาณขนาดเล็ก” ได้ส่งผลกระทบต่อ ค่าเงินปอนด์ และในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งทำให้ LDO ต้องเข้ามามีบทบาทลดความผันผวนของค่าเงิน

ธนาคารกล่าวในแถลงการณ์ว่า "นอกเหนือจากการดำเนินการในสัปดาห์นี้ ธนาคารจะยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานและหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรม LDI จะดำเนินการบนพื้นฐานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นในอนาคต"