โดย Yasin Ebrahim

- ดาวโจนส์ปิดสูงขึ้นในวันพุธหลังจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกลางที่จะคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจรายไตรมาสของสหรัฐฯ ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสองปี

S&P 500 ลดลง 0.1% ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.3% หรือ 82 จุด Nasdaq ลดลง 0.03%

“วิธีการนั้น [การควบคุมอัตราเงินเฟ้อ] คือการชะลอการเติบโต [ทางเศรษฐกิจ] แต่ควรคงไว้ในเชิงบวก” พาวเวลล์กล่าวเมื่อวันพุธ แม้ว่าจะยอมรับว่า "มีความเสี่ยง" ที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดเน้นว่าภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจไม่ใช่นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด แต่คือ "ความล้มเหลวในการฟื้นฟูเสถียรภาพของราคา"

มาตรการตามนโยบายของเฟดดูเหมือนจะส่งผลกระทบตามที่ต้องการแล้ว โดยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดแสดงให้เห็นการหดตัวครั้งแรกของ GDP สหรัฐรายไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2020

ตัวเลขสุดท้ายของ  GDP ไตรมาสแรก ได้รับการแก้ไขลดลง 0.1% อย่างไม่คาดคิด เป็นการหดตัว 1.6% ต่อปีในรายงานไตรมาสที่ 1 

ช่วงบวกของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรชะลอตัว ผลักดันภาคการเติบโตอย่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้สูงขึ้น Apple (NASDAQ:AAPL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) ซึ่งเป็นผู้นำกำไรจากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 1%

แต่ทั้งนี้ การร่วงลงของหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ ยังคงหนุนกำไรในภาคเทคโนโลยี หลัง {0|Bank of America}} เตือนถึงฉากหลังที่อ่อนแอสำหรับความต้องการชิป

"นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก ความวุ่นวายทางการเมือง และความอ่อนแอของผู้บริโภค มีแนวโน้มที่จะกดดันความต้องการชิป 2HCY22/CY23E" Bank of America กล่าวในหมายเหตุ  

NVIDIA (NASDAQ:NVDA) และ Advanced Micro Devices (NASDAQ:AMD) ลดลงมากกว่า 2% และ 3% ตามลำดับ

Snap (NYSE:SNAP) วางแผนจะเปิดตัวแผนการสมัครสมาชิก Snapchat+ ราคา 3.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Snapchat บริการสมัครสมาชิกที่จะเปิดตัวในสัปดาห์นี้จะกลายเป็น "แหล่งรายได้ที่สำคัญ" ทำให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 1%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงมากกว่า 3% หลังจากราคาน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลอย่างต่อเนื่องว่าการเติบโตทั่วโลกที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน

ทางด้านกำไร นักลงทุนสรุปผลประกอบการรายไตรมาสออกมาดีกว่าที่คาดเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงมีผลต่อการเติบโต

Bed Bath & Beyond (NASDAQ:BBBY) ลดลงเกือบ 24% หลังจากรายงานผลขาดทุนที่กว้างกว่าที่คาดไว้ใน รายงานรายไตรมาส และประกาศว่า Mark Tritton จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร

McCormick (NYSE:MKC) ทำรายได้ รายไตรมาส ต่ำกว่าที่คาด และลดแนวโน้มทั้งปีลง โดยอ้างต้นทุนที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน หุ้นของบริษัทร่วงลงมากกว่า 1%

ในข่าวอื่น Nio (NYSE:NIO) ปฏิเสธข้อกล่าวหาจาก Grizzly Research ว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนขายแบตเตอรี่ให้กับ Wuhan Weineng Battery Asset ซึ่งถือหุ้นเกือบ 20%