หน้าแรก > ข้อมูล > รายละเอียดข่าว
นักลงทุนทองคำ น้ำมัน ต่างเฝ้ารอตัวเลข CPI และก้าวต่อไปของรัสเซีย
2022-05-10 16:40:08
more 
147

ถ้าจะให้สรุปสั้นๆ ว่าควรจับตาดูอะไรในการลงทุนสัปดาห์นี้ นอกจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อแล้ว ความกังวลที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากปัญหาเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเป็นตัวกำหนดว่าราคาน้ำมันจะลงมาจากจุดสูงสุดล่าสุด และทองคำจะสามารถวิ่งขึ้นมาในฐานะสินทรัพย์สำรองปลอดภัยได้หรือไม่ Gold DailyGold Daily

สำหรับตอนนี้รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ที่มักจะถูกประกาศในสัปดาห์ที่สองของเดือน กลับได้รับความสนใจจากตลาดลงทุนมากกว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสัปดาห์ที่แล้วเสียอีก เพราะตัวเลขนี้จะมีผลต่อการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในครั้งถัดๆ ไป จนกว่าตัวเลข CPI จะลดลง เชื่อว่าตลาดลงทุนคงมิอาจคลายความกังวลลงได้ 

ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งถัดไป เชื่อว่าตลาดลงทุนคงคาดหวังกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% หลังจากที่การประชุมครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ปรับขึ้นไป 0.50% แต่ก็อย่างที่เห็นว่าตอนนี้ตลาดลงทุนไม่ยินดีกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% อีกแล้ว ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาคือความเชื่อใจระหว่างตลาดลงทุนกับเฟด แม้ว่าเจอโรม พาวเวลล์ จะออกมาพูดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาดจะไม่เชื่อเช่นนั้น

การที่ตลาดราคาน้ำมันฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้นมาตลอดเมื่อสองสัปดาห์ล่าสุดได้ทำให้ราคาน้ำมันตามปั้มในสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นสร้างตัวเลขสูงสุดใหม่ด้วย นักวิเคราะห์ประเมินว่าความกังวลที่นักลงทุนมีต่อเฟด และความกังวลต่อสิ่งที่เฟดจะทำในอนาคตอาจจะทำให้ราคาน้ำมันถูกเทขายอีกครั้งในสัปดาห์นี้Crude Oil DailyCrude Oil Daily

เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงมาจริง แต่เป็นเพราะเรื่องความกังวลที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และผลการประชุม G7 ที่ได้ข้อสรุปว่าจะงดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ในขณะที่ปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันยืนเหนือ $100 บาร์เรลได้ในตอนนี้คือความกังวลว่าผู้นำรัสเซียจะยกระดับสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนยังคงผันผวนจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ภายในประเทศ หากไปดูตัวเลขการส่งออกแบบปีต่อปีของจีนจะพบว่าตัวเลขในเดือนเมษายนลดลงจาก 14.7% เหลือเพียง 3.9% ในขณะที่ตัวเลขการนำเข้าแบบปีต่อปียังทรงตัว แม้ถูกคาดว่าจะลดลง 3% รายงานตัวเลขดุลบัญชีการค้าก็ออกมาอยู่ที่ $51,120 ล้านเหรียญ เทียบกับคาดการณ์ $50,650 ล้านเหรียญสหรัฐBrent Oil DailyBrent Oil Daily

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้น 39 เซนต์ คิดเป็น 0.4% ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 28 เซนต์ คิดเป็น 0.3% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นมาทั้งหมด 6% ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI สามารถปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 8% ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้ผลการประชุม OPEC+ จะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 432,000 บาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังมาก จนแทบไม่มีใครหยิบมาทำเรื่องนี้ให้เป็นข่าว

John Kilduff นักวิเคราะห์จากกองทุนเฮจฟันด์ Again Capital ประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันว่า 

“ผมไม่เชื่อว่าตอนนี้เฟดจะยังนิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้ ภายในเองคงจะมีความขัดแย้งมากขึ้นเมื่อตลาดเต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์มากขนาดนี้ ความกังวลนี้ได้สะท้อนออกมาผ่านการเทขายหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทหลังการประชุมจนถึงปัจจุบัน”

Jeffrey Halley หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดลงทุนประจำโบรกเกอร์ออนไลน์ OANDA วิเคราะห์ว่า

“ขาขึ้นต่อจากนี้ของราคาน้ำมันดิบคงจะยาก ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้น เช่นรัสเซียยกระดับการทำสงครามกับยูเครนรุนแรงขึ้น จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้สร้างรูปแบบ Triple Top ขึ้นมาแล้วที่ระดับราคา $114.75 ต่อบาร์เรล ซึ่งแน่นอนว่านี่คือแนวต้านสำคัญ โดยมีแนวรับอยู่ที่ $103.50 ต่อบาร์เรล ส่วนตัวแล้วผมประเมินกรอบการวิ่งของราคาเอาไว้ที่ $120-$100 บาร์เรล”

“สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI” เขากล่าวต่อ “มีแนวต้านอยู่ที่ $111.50 บาร์เรล โดยมีแนวรับอยู่ที่ $100.00 ต่อบาร์เรล กรอบการวิ่งของราคานั้นอยู่ที่ $115-$95 ต่อบาร์เรล”

นอกจากรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคแล้ว สัปดาห์นี้จะมีถ้อยแถลงจากประธานเฟดสาขาต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า จอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในบอร์ดบริหารเฟด นิล คัชคาริ ประธานเฟดสาขามินนิอาโพลิส โรแรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และแมรี่ ดัลลีย์ ประธานเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก

ก่อนหน้านี้ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ทอม บาร์กิ้นได้แสดงความเห็นของตัวเองออกมาแล้ว แม้เขาจะสนับสนุนให้เฟดทำนโยบายการเงินแบบตึงตัว แต่ก็ไม่คิดจะให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% 

การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐมากที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี การเทขายหุ้นในตลาด S&P 500 และ NASDAQ 100 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ขึ้นยืนเหนือ 3% ได้คือคำตอบว่าทำไมราคาทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนถึงปรับตัวลดลง 1.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์สำรองที่ชอบเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงติดต่อกันสามสัปดาห์แล้ว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก OANDA กลับมองว่าสถานการณ์โดยรวมของทองคำถือว่าตั้งรับได้ดี แม้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐจะขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 104.12 จุด ขยับเข้าใกล้จุดสูงสุดของเดือนธันวาคมปี 2002 ที่ 107.38 มากแล้ว แต่ราคาทองคำก็ยังพยายามรักษาทรงให้ไม่ลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,850 ได้  

 
คำสั่ง:
เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FxGecko เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

บทความที่เกี่ยวข้อง

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。