หลังการประชุม FED ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ Bitcoin และ Ethereum จะราคาล่วงลงอย่างต่อเนื่องซึ่ง Mike McGlone นักยุทธศาสตร์อาวุโสจาก Bloomberg ได้ออกมาเปิดเผยมุมมองของเขาเกี่ยวกับสิ่งนี้โดยกล่าวว่า “ได้มองเห็นจุดจบที่ดีของ cryptocurrency” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Mike McGlone อธิบายพื้นฐานของปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกสำหรับตลาดคริปโตโดยใช้กฎอุปสงค์และอุปทานซึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ตามกฎของเศรษฐศาสตร์ ตลาดที่มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ลดลง ราคาของมันก็จะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป” ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2564 Bitcoin ได้เกิด death cross อีกครั้งและร่วงลงไปถึงระดับต่ำสุดที่ 28,800 ดอลลาร์ หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือน Bitcoin ก็ฟื้นตัวจากแรงซื้อที่มหาศาลเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเดือนกันยายน พร้อมทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ตามที่ Mike McGlone ได้กล่าวไว้ ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน Bitcoin อาจกลับมาถึงจุดต่ำสุดอีกครั้งที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ก่อนจะกลับไปสู่ที่ระดับราคา 60,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ในทวีตก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ของ Bloomberg ได้บอกว่า “Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่กำลังมาแรง โดยมีมูลค่าตลาดน้อยกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่เทียบเท่าได้กับมูลค่าหุ้นประมาณ 100 ล้านล้านดอลลาร์’ แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่การคาดการณ์เชิงบวกยังคงแข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์นำ โดยเขาประเมินว่ามูลค่าตลาดของ Ethereum อาจสูงถึง 20 ล้านล้านดอลลาร์ และราคา Bitcoin อาจเกิน 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตามการพิจารณานี้เป็นการเปรียบเทียบจากกรณีการใช้งานของ BTC และวิธีที่ Ethereum คว้าส่วนแบ่งตลาดจากการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) ซึ่งในขณะนี้ Bitcoin ยังคงซื้อขายที่ 36,758 ดอลลาร์ และ Ethereum อยู่ที่ 2,462 ดอลลาร์ ณ เวลาปัจจุบัน กระนั้นนักเทรดไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนนี้ในการตัดสินใจเพื่อการลงทุน และควรศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองก่อนการลงทุนเสมอ

กดอ่านข่าว นักวิเคราะห์ชื่อดัง Mike McGlone เผย Bitcoin อาจมีราคาสูงถึง 1 ล้านดอลาร์ภายในปี 2030 ต่อที่ Siam Blockchain