InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.69/70 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 36.66 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางเงินบาทวันนี้ยังอ่อนค่า ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงนี้ไว้ โดยจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบ กับสกุลเงินอื่นๆ สัปดาห์หน้า มีปัจจัยสำคัญในประเทศที่ต้องจับตา คือ วันที่ 29 พ.ค.67 อัยการสูงสุด นัด "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายก รัฐมนตรี ฟังคำสั่งคดี มาตรา 112 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ตลาดรอดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐ "ปัจจัยสำคัญในประเทศสัปดาห์หน้า ที่ตลาดรอดู คือ อัยการนัดฟังคำสั่งคดี ม.112 ของอดีตนายกฯ ทักษิณ เพราะจะมีผลต่อ การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอยู่บ้าง" นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50 - 36.80 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 157.00/03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 157.04 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0827/0830 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0810 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี ปิดวันนี้ที่ 1,364.48 จุด ลดลง 3.36 จุด (-0.25%) มูลค่าซื้อขาย 35,858.38 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 818.01 ล้านบาท - รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เพื่อใช้สำหรับ กระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังปี 67 โดยเตรียมจะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก วันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้ - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยทั้งปี 2567 คาดว่าจะ พลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ จากแรงสนับสนุนหลายด้าน แต่อย่างไรก็ดี SCB EIC ได้ปรับลดประมาณการส่งออกไทยปีนี้ลง เหลือโต 2.6% จากเดิม 3.1% เนื่องจากปริมาณการค้าโลกขยายตัวต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากปัญหาการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ และการใช้มาตรการกีด กันการค้ามากขึ้น - รัฐบาลจีนได้ระบุว่า การซ้อมรบรอบไต้หวันในขณะนี้เป็นการทดสอบความสามารถทางทหารในการยึดอำนาจเหนือเกาะ ไต้หวัน ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า นโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพน้อยลง ในการทำให้เศรษฐกิจคลายความร้อนแรงเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง เป็นเวลานานขึ้น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ - กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยว่า โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส (OPEC+) จะจัดประชุมออ นไลน์ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน ขณะที่ปัจจุบัน OPEC+ได้ปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 นำโดย ซาอุดีอาระเบีย - เจพีมอร์แกน ระบุว่า อินเดีย และญี่ปุ่น เป็น 2 ดาวเด่นที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดหุ้น และการควบรวมกิจการ (M&A) ของเอเชีย - รัฐบาลจีน ระบุว่า การซ้อมรบรอบไต้หวันในขณะนี้ เป็นการทดสอบความสามารถทางทหารในการยึดอำนาจเหนือเกาะ ไต้หวัน ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง - สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เยอรมนีขยายตัว 0.2% ในไตรมาสที่ 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) เทียบรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการเบื้องต้น โดยหลังจาก GDP ลดลงในช่วงปลายปี 2566 เศรษฐกิจเยอรมนีได้เริ่มต้นปี 2567 ด้วยการเติบโตในทางบวก - สัปดาห์หน้า สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค., ดัชนีการผลิต เดือนพ.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2) และ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนเม.ย.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest