- หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปิดลดลงในช่วงเย็นวันจันทร์ หลังดัชนีหลักของวอลล์สตรีทหลุดจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างการเทขายทำกำไรและความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ก่อนรายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญในสัปดาห์นี้
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงลังเลกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐจำนวนหนึ่งส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางไม่รีบร้อนที่จะเริ่มผ่อนปรนนโยบายการเงิน
แนวคิดนี้ทำให้ดัชนีวอลล์สตรีททั้งสามได้รับผลกระทบจากการเทขายทำกำไรในสองเซสชันที่ผ่านมา หลังผลผลประกอบการอันโดดเด่นจาก NVIDIA Corporation (NASDAQ:) ผลักดันให้หุ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทรงตัวที่ 5,080.75 จุด ขณะที่ ขยับลงเล็กน้อยที่ 17,970.0 จุด เมื่อเวลา 18:46 ET (23:46 GMT) ทรงตัวที่ 39,116.00 จุด
ข้อมูลของ Econ ทำให้วอลล์สตรีทยังคงลังเล
สิ่งที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่อยู่ที่ข้อมูล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดที่มีกำหนดการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี สัญญาณของภาวะเงินเฟ้อที่เหนียวแน่นมีแนวโน้มจะทำให้ธนาคารกลางมีแรงผลักดันมากขึ้นในการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเป็นเวลานานขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ลดทอนความต้องการของสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา
ดัชนี ปรับลง 0.4% เป็น 5,069.53 จุดในวันจันทร์ ขณะที่ ขยับลง 0.1% เป็น 15,976.25 จุด ขยับลง 0.2% และปิดที่ 39,069.23 จุด
แต่ก่อนจะมีการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ ตลาดจะต้องเผชิญกับกรายงานสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งมีทั้ง และรายงานกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐหลายประเภทก็จะเผยแพร่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ตัวเลข ไตรมาสที่สี่ที่แก้ไขแล้วก็จะมัการเปิดเผยในสัปดาห์นี้เช่นกัน และคาดว่าจะแสดงให้เห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะไม่ทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นก็ตาม
เจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายก็เตรียมที่จะขึ้นกล่าวปราศรัยในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เพื่อนร่วมงานของพวกเขามองข้ามความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นโดยธนาคารกลางในปี 2024 ทำให้เทรดเดอร์ลดเดิมพันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนลง ตามข้อมูลของ
ฤดูกาลผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปิดท้ายได้อย่างหลากหลาย
ฤดูกาลผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่สี่กำลังใกล้จะสิ้นสุดลง โดยมีผลลัพธ์ที่ค่อนข้างหลากหลาย
บริษัทการประชุมผ่านวิดีโอ Inc (NASDAQ:) เพิ่มขึ้น 12% หลังเวลาตลาดปิดจากรายรับที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะเดียวกันก็ประกาศการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ในทางกลับกัน (NYSE:) ร่วงลงเกือบ 19% หลังจากที่บริษัทกล่าวว่ากำลังจะยกเลิกธุรกิจบางแห่ง แม้ผลประกอบการจะสูงกว่าประมาณการก็ตาม
(NASDAQ:) ร่วงลง 8% หลังจากการคาดการณ์ยอดการสมัครสมาชิกต่ำกว่าคาด ขณะที่ (NASDAQ:) ลดลงเกือบ 12% หลังเปิดเผยแนวทางบริษัทที่อ่อนแอเช่นกัน
บริษัทค้าปลีกจำนวนมาก รวมถึง Lowe's Companies (NYSE:) Macy's (NYSE:) TJX Companies (NYSE:) และ ( NYSE:) ก็เตรียมประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสในสัปดาห์นี้เช่นกัน
ลงทุนหุ้นอเมริกาแบบมือโปร เข้าถึงเครื่องมือตัวช่วยในการลงทุน investingPro รับส่วนลด 10% เพียงกรอกคูปองโค้ด TH2024 ที่หน้าชำระเงิน สมัครใช้งานได้แล้ววันนี้