หน้าแรก > ข้อมูล > รายละเอียดข่าว
ความผันผวนคือโอกาสการลงทุนในบิทคอยน์และอีเธอเรียม
2021-11-30 16:10:24
more 
385

อินเตอร์เน็ตก่อให้เกิดการต่อยอดในโลกปัจจุบันมากมาย ใครจะเคยคิดว่าวันหนึ่งเราจะสามารถถือโน๊ตบุ๊คตัวเดียวไปทำงานที่ไหนก็ได้ การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ายุคนี้เราสามารถทำงานจากที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องไปที่ออฟฟิศได้จริงๆ แต่พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตไม่มีเรื่องไหนน่าสนใจไปมากกว่าการถือกำเนิดขึ้นของบิทคอยน์อีกแล้ว

จากความเชื่อที่ว่ารัฐบาลไม่สมควรกุมอำนาจทางการเงินไว้ นำมาสู่การก่อกบฎทางการเงินที่สร้างสรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทุกวันนี้เรามีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 10,000 สกุลเงินแล้ว และเราก็มีประวัติศาสตร์ของบิทคอยน์ที่เคยเริ่มต้นที่ 5 เซนต์ในปี 2010 กลายเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดถึง $65,500 ผมเอง (ผู้เขียนบทความ) ยอมรับว่าครั้งหนึ่งเคยดูถูกบิทคอยน์ว่าเป็นเพียงรางวัลของเหล่าเด็กเนิร์ด ในวันที่บิทคอยน์มีมูลค่า $100 ผมยังคงมองว่าเป็นเรื่องตลก วันที่บิทคอยน์ขึ้นมามีมูลค่า $1,000 ผมยังมองว่าเป็นแฟชัน วันที่ขึ้นมามีมูลค่า $10,000 ผมยังมองว่าเป็นฟองสบู่ และวันที่ขึ้นมาแตะ $60,000 ได้ผมก็ได้แต่เคาะหัวตัวเองว่าพลาดการลงทุนครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว

ปัจจุบันสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกปกครองโดยกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป แต่มีผู้เล่นหลายรายที่ต้องการเข้ามาในโลกใบนี้ บางคนก็ต้องการมาเก็งกำไรกับบิทคอยน์ต่อ บางคนหวังจะเป็นผู้สร้างนิวบิทคอยน์ บางคนเข้ามาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ที่แพลตฟอร์มอีเธอเรียมได้วางเอาไว้ ปัจจุบัน โลกของคริปโตฯ ไม่ใช่การซื้อขายแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียว แต่คริปโตฯ อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกมัลติเวิร์สในอนาคต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นทั้งบิทคอยน์และอีเธอเรียมขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สถานการณ์ปัจจุบันของบิทคอยน์และอีเธอเรียม

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน บิทคอยน์ฟิวเจอร์สได้ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $69,355 หลังจากนั้นแรงส่งขาขึ้นก็ได้หมดลง พาราคาบิทคอยน์วิ่งเข้าสู่แนวโน้มขาลงBitcoin Futures DailyBitcoin Futures Daily

ที่มา: CQG

กราฟรายวันรูปนี้แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่บิทคอยน์ฟิวเจอร์สขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ในวันที่ 10 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งที่มีจุดปิดต่ำกว่าจุดเปิด ส่งสัญญาณให้นักลงทุนว่าถึงเวลาขาย และจากวันนั้นก็ได้ส่งบิทคอยน์ลงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ $53,625 คิดเป็นการพักตัวของราคา 22.7% ข่าวร้ายก็คือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บิทคอยน์สร้างแท่งเทียนขาลงที่ทำท่าว่าจะปรับตัวลงต่ออีกครั้ง

เมื่อบิทคอยน์ปรับตัวลง ก็ถือเป็นการยากที่สกุลเงินดิจิทัลทางเลือกจะสามารถยืนหยัดในขาขึ้นได้ แม้แต่อีเธอเรียมที่มีจุดประสงค์การใช้งานต่างจากบิทคอยน์โดยสิ้นเชิงก็ไม่มีข้อยกเว้นEther Futures DailyEther Futures Daily

ที่มา: CQG

รูปนี้แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กราฟอีเธอเรียมฟิวเจอร์สร่วงลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4,902.75 ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ $3,920 ในวันที่ 26 พฤศจิกายน จากจุดสูงสุดในวันที่ 10 พฤศจิกายน ลงมาถึงจุดต่ำสุดในวันที่ 26 พฤศจิกายน คิดเป็นการปรับตัวลดลงมาทั้งหมด 20% 

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่พึ่งเข้ามาสู่ตลาดคริปโตฯ อาจจะตกใจกับขาลงครั้งนี้ แต่เราอยากจะบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวลดลง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การที่บิทคอยน์กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทำให้เกิดตัวเลือกการลงทุนในคริปโตฯ ขึ้นมาใหม่มากมาย ครั้งแรกคือการยอมรับบิทคอยน์ฟิวเจอร์สในปี 2017 ของตลาด CMEBitcoin Futures MonthlyBitcoin Futures Monthly

ที่มา: CQG

กราฟรายวันรูปนี้แสดงให้เห็นเหตุการณ์ในปี 2017 ณ ตอนนั้นบิทคอยน์ขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $20,000 ก่อนจะร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดที่ $3,000 หลังจากนั้น ในปี 2021 ในัวันที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล “คอยน์เบส” (NASDAQ:COIN) ถูกลิสต์ขึ้นดัชนีแนสแด็ก ก็ได้ส่งให้บิทคอยน์ขึ้นสร้างจุดสูงสุดที่ $65,000 ได้เป็นครั้งแรก

สิ่งที่เราจะสื่อก็คือ ทุกครั้งที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวลดลง แม้ดูเหมือนว่าจะลึกมากเพียงใด แต่สุดท้ายตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่าได้ทุกครั้ง ดังนั้นขาลงในครั้งนี้จึงอาจจะเป็นตัวบอกใบ้ว่าแนวโน้มขาลงอาจจบลงในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่ราคาจะปรับตัววิ่งกลับขึ้นไป


ความผันผวนคือโอกาสในการลงทุนของวงการคริปโตฯ

สิ่งที่นักลงทุนกลัวมากที่สุดคือความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอน ดังนั้นเราจึงถูกสอนอยู่บ่อยๆ ว่าอย่าลงทุนในจังหวะที่ตลาดมีความเสี่ยงสูง แต่ความเชื่อแบบนั้นไม่สามารถใช้ได้กับตลาดสกุลเงินดิจิทัล เพราะที่นี่มีความผันผวนเกิดขึ้นตลอดเวลา และนักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ก็ชื่นชอบสิ่งนี้เป็นพิเศษ

ความผันผวนของบิทคอยน์และอีเธอเรียมก่อให้เกิดโอกาสในการลงทุนมากมาย ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว บิทคอยน์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $54,460 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาด $1,023 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกันอีเธอเรียมก็มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $4,068 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาด $480 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap ระบุว่ามีมูลค่าการซื้อขายบิทคอยน์ ณ ช่วงนั้นทั้งหมด $32,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และอีเธอเรียมมี $18,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยอันดับสาม ไบแนนซ์คอยน์ (BNB) ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดทั้งหมด $2,720 ล้านเหรียญสหรัฐ

สิ้นปี 2021 ที่ใกล้มาถึงกับความฝันที่จะเห็นบิทคอยน์ ณ $100,000

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกระแสว่าบิทคอยน์อาจจะสามารถขึ้นถึง $100,000 ได้ก่อนสิ้นปี 2021 และถึงแม้ว่าเหล่าสาวกจะตั้งความหวังเอาไว้สูงเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงตอนนี้ ที่การขึ้นยืนเหนือ $60,000 ยังเป็นเรื่องยาก และถ้าไม่นับวันนี้ ที่เป็นวันสิ้นเดือนพฤศจิกายน เราก็เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นกับระยะทางอีก $40,000 ก่อนแตะ $100,000 เป้าหมายนี้เริ่มดูเป็นไปได้น้อยลงไปทุกที

แต่ด้วยสถานการณ์โลกตอนนี้ที่คาดเดาได้ยาก ยังมีปัจจัยหลายประการที่อาจจะช่วยหนุนตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้ปรับตัวขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ โรคระบาด ในสัปดาห์หน้า CME จะยอมรับให้มีสัญญาซื้อขายอีเธอเรียมแบบไมโครแล้ว ปัจจัยเหล่านี้อาจดึงแรงซื้อให้กลับเข้ามาในตลาดก็เป็นได้ สิ่งที่นักลงทุนสนใจตอนนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจโลก ความสมดุลหรือพลังงานสะอาด แต่เป็นสินทรัพย์ใดก็ได้ที่จะทำให้เงินลงทุนของพวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วก่อนก้าวเข้าสู่ปี 2022 และสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นคำตอบนั้น

คำสั่ง:
เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FxGecko เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

บทความที่เกี่ยวข้อง

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。