หน้าแรก > ข้อมูล > รายละเอียดข่าว
คาด SET สัปดาห์นี้ ยังมีโอกาสปรับฐานลงต่อเนื่อง
2022-10-11 10:45:05
more 
447

  SETI -0.58% เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุนเพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์ เพิ่มสถานะ

ภาพรวมการลงทุน: เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ (10-12 ต.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,625 จุด (แนวรับ 1,550-1,530 จุด / แนวต้าน 1,600-1,625 จุด) คาด SET สัปดาห์นี้ยังมีโอกาสพักฐาน ถึงปรับฐาน ลง จากความกังวลต่อการที่เฟดจะดําเนินนโยบายการเงินเข้มงวดต่อเนื่อง ด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย FedWatch Tool ของ CME Group ยังให้น้ําหนักต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการ ประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. 65 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมล่าสุด ในช่วงปลาย สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มน้ําหนักต่อการที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่ง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในยูโร โซน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยจะมีวันหยุดยาวในช่วงปลายสัปดาห์ (13-14 ต.ค.) ก่อนการายงานเงินเฟ้อ สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะทําให้ SET มีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง สัปดาห์นี้ติดตาม การทยอยประกาศผล ประกอบการ 3Q65 รวมไปถึงข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัยทั่วโลก ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคา ผู้บริโภค ของจีน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. ของยูโรโซน และรายงานเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. (13 ส.ค.) รวมไปถึงบันทึกการประชุม FOMC ในรอบการประชุม 20-21 ก.ย. ที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 35% เลือก PTTEP BAFS BEM BDMS AWC CENTEL PTG SUSCO เป็นหุ้นเด่น - เราปรับลดน้ําหนักหุ้นในพอร์ตเหลือ 35% จากเดิมที่ 40% เพิ่มลดความเสี่ยงจากการดําเนินนโยบายการเงินที่ เข้างวดมากขึ้นของเฟด Theme หุ้นที่น่าลงทุน เราเลือก หุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เราเลือก ASIAN SAPPE หุ้นในกลุ่ม Defensive เราเลือก BDMS BH หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเลือก EA GULF หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ เราเลือก BEM และหุ้นใน Theme เปิดเมืองที่ยังน่าสนใจ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS ERW AWC CENTEL PTG SUSCO ขณะที่เราแนะนําเก็งกําไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน เราเลือก PTTEP PTT (BK:PTT) BCP TOP SPRC

• เราคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และ 0.50% ในการประชุม FOMC อีก 2 ครั้งที่เหลือของปี 2565 ติดตามความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในระยะต่อไป - รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ก.ย. ลดลงจาก เดือน ส.ค. แต่สูงกว่าที่ Market Consensus คาดู ซึ่งทําให้ Fedwatch tool ระบุถึง ความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 92% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% (ครั้งที่ 4) ติดต่อกันในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. โดยเพิ่มขึ้นจาก 83.4% ก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน ขณะที่อัตราการว่างงานกลับลดลงมาอยู่ที่ 3.5% ความเห็นของ คณะกรรมการของเฟดส่วนมาก ยังคงสะท้อนจุดยืนชัดเจนว่า เฟดจะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัด เงินเฟ้อ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเรายังคงต้องติดตามรายงานการประชุมของเฟดประจําเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. และตัวเลขดัชนีราคา ผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. สําหรับการคาดหมายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี 2565 เราคาดว่า ในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 1-2 พ.ย. เราคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.759% สู่ 3.7596-4.006 และการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. เราคาดว่าเฟด จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.2590-4.50% ขณะที่ ปี 2566 เราคาดว่าจะยังไม่เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเราคาดว่าเฟดจะยังขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปี 2566 สู่ระดับ 4.50%-4.75% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในช่วงต้นปี ซึ่งหากตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจเริ่ม อ่อนแอ หรือมีสัญญาณการถดถอยที่ชัดเจน การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะลดลง โดยปัจจุบันความเป็นไปได้ที่จะ เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ อยู่ที่ 50% ยุโรป อยู่ที่ 72.5% สหราชอาณาจักร อยู่ที่ 60% เยอรมัน อยู่ที่ 77.5% และ อิตาลี อยู่ที่ 75% ขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไทย อยู่ที่ 159% จากการ สํารวจของ Bloomberg ประเด็นที่น่าติดตาม รายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ย. + รายงานเงินเฟ้อ สหรัฐฯ และจีน - (10 ต.ค.) - อังกฤษ - อัตราว่างงาน เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ - ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจ อิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) //(11 ต.ค.) ญี่ปุ่น - บัญชีเดินสะพัด (Current Account) //(12 ต.ค.) ยูโรโซน - ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ - รายงานการประชุม OPEC รายงาน Month report จากทาง EIA และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย. // (13 ต.ค.) ไทย – ปิดทําการซื้อขายระหว่างวันที่ 13-14 ต.ค. เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันหยุดพิเศษ (14 ต.ค.) / เยอรมนี - อัตราเงินเฟ้อ เดือน ก.ย. / สหรัฐฯ - รายงานการประชุมของ คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC – ทราบผลเช้า 13 ต.ค.) รายงานปริมาณสํารอง น้ํามันดิบประจําไตรมาสจาก AP รายงานประจําเดือนของ IEA ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน เดือน ก.ย. (คาด CPI เพิ่มขึ้น 0.29%mon และเพิ่มขึ้น 8.1%yoy (ลดลงจากเดือน ส.ค. ที่ 8.1%yoy) /Core CPI เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.59%mom และเพิ่มขึ้น 6.59%yoy) จํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และปริมาณสํารองน้ํามันดิบ รวม Cushing จากทาง IEAT (14 ต.ค.) จีน - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน เดือน ก.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 2.89%yoy เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่เพิ่มขึ้น 2.5%yoy) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน เดือน ก.ย. และดุลการค้า เดือน ก.ย. (คาดเกินดุล 8.1 หมื่นล้านเหรียญ) / ยูโรโซน - ดุลการค้า เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ - ดัชนียอดขายปลีก เดือน ก.ย. ดัชนีราคาสินค้านําเข้า เดือน ก.ย. ดัชนี้ยอดขายปลึก เดือน ก.ย. ความคาดหวังของผู้บริโภครัฐมิชิแกน เดือน ต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกน เดือน ต.ค. // (15 ต.ค.) สหรัฐฯ - จํานวนแท่นขุดเจาะน้ํามัน ทั้งหมดของบริษัท Baker Hughes ของสหรัฐฯ

• ปัจจัยทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,595 จุด / หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ © SPA (แนวต้าน 11.3-11.6/ แนวรับ 10.8-10.6/Stop loss 10.2) VRANDA (แนวต้าน 8.50-8.68/ แนวรับ 8.10-8.00 /Stop loss 7.7) " BA (แนวต้าน 13.2-13.5 / แนวรับ 12.6-12.4/Stop loss 11.9

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

คำสั่ง:
เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FxGecko เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

บทความที่เกี่ยวข้อง

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。