โดย Yasin Ebrahim

– ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเมื่อวันพุธ หลังจากนักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร และผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวังจาก Target ได้ก่อความกังวลให้กับความเชื่อมั่น

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.51 หรือ 174 จุด S&P 500 ลดลง 0.7% และ Nasdaq Composite ลดลง 1.2%

รายงานการประชุมในเดือนกรกฎาคมของเฟดระบุว่าสมาชิกเฟดยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่จำกัด แม้ว่าจะสนับสนุนแนวคิดที่จะลดอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ย “ในที่สุด”

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่อนคลายจากระดับสูงสุดหลังข่าวนี้ ช่วยให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ฟื้นการขาดทุนบางส่วน Apple (NASDAQ:AAPL) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1%

แต่หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วงลงส่งผลกระทบต่อภาคส่วนเทคโนโลยีโดยรวม หลังจาก Analog Devices  (NASDAQ:NASDAQ:ADI) ร่วงลงกว่า 5% แม้จะมี รายงานรายไตรมาส ที่ทำเป้าได้ทั้งบรรทัดบนและบรรทัดล่าง

Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) และ NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ก็กดดันหุ้นชิป โดยร่วงลงมากกว่า 1% และ 2% ตามลำดับ

ขณะที่ผู้ค้าปลีกยอมคืนกำไรบางส่วนจากวันก่อนหน้าหนึ่งวันหลังจากที่ Target Corporation (NYSE:TGT) รายงาน รายรับไตรมาสที่สอง 39 เซนต์ซึ่งต่ำกว่านักวิเคราะห์ประมาณการ แม้ในขณะที่ผู้ค้าปลีกลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย

Krispy Kreme (NASDAQ:DNUT) ในขณะเดียวกันก็ลดลงเกือบ 12% หลังจากผลประกอบการรายไตรมาสพลาดการประมาณการ แม้ว่าร้านขายโดนัทกล่าวว่าต้นทุนวัตถุดิบลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานรายไตรมาสจำนวนมากจากผู้ค้าปลีกได้รับข้อมูลรายเดือน ยอดค้าปลีก ที่ออกมาดีเกินคาด นำโดยยอดขายออนไลน์หรือนอกร้านที่แข็งแกร่งขึ้น

“ฤดูกาลช็อปปิ้งที่โรงเรียนเปิดเทอมในปีนี้ดูเหมือนจะซื้อออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่” เจฟฟรีส์กล่าว

ในข่าวอื่น ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (NYSE:MANU) เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% จากรายงานที่ครอบครัวเกลเซอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคนปัจจุบัน เปิดให้ขายหุ้นบางส่วน